ที่มาของภาพ, Centcom
กองทัพสหรัฐฯ เปิดฉากโจมตีทางอากาศใส่เป้าหมาย 85 แห่งในอิรักและซีเรีย เพื่อตอบโต้การโจมตีที่ทำให้ทหารสหรัฐฯ เสียชีวิต 3 นายที่ฐานทัพแห่งหนึ่งในจอร์แดน เมื่อปลายเดือน ม.ค.
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ กล่าวว่า ปฏิบัติการตอบโต้ของสหรัฐฯ เริ่มตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป และ “จะดำเนินการต่อไปตามเวลาและสถานที่ที่เราเลือก”
แถลงการณ์ของทำเนียบขาวระบุว่า สหรัฐฯ “ไม่ประสงค์จะสร้างความขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกลางหรือที่อื่น ๆ บนโลก”
ไบเดนเตือนว่า “ขอให้ทุกคนที่พยายามทำร้ายเรารู้เอาไว้ว่า หากคุณทำร้ายชาวอเมริกัน เราจะตอบโต้"
ที่มาของภาพ, Reuters
โจ ไบเดน เข้าร่วมการส่งร่างทหาร 3 นายที่ถูกสังหารในฐานทัพสหรัฐฯ ที่ประเทศจอร์แดน กลับบ้านเกิดเมื่อ 2 ก.พ.
ปฏิบัติการนี้เป็นไปเพื่อตอบโต้กรณีฐานทัพสหรัฐฯ ซึ่งรู้จักในชื่อเรียก “ทาวเวอร์ 22” (Tower 22) ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจอร์แดน ถูกโจมตีด้วยโดรนสังหารเมื่อวันที่ 28 ม.ค. ส่งผลให้ทหารชาวอเมริกันเสียชีวิต 3 นาย และบาดเจ็บกว่า 40 นาย
End of เรื่องแนะนำ
นี่ถือเป็นการสูญเสียชีวิตของทหารสหรัฐฯ ครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดสงครามระหว่างอิสราเอล-ฮามาส เมื่อ 7 ต.ค. 2023
รัฐบาลวอชิงตันเชื่อว่า ขบวนการต่อต้านอิสลามในอิรัก ซึ่งมีจุดยืนสนับสนุนอิหร่าน อยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีดังกล่าว และกล่าวหาว่าโดรนลำนี้ผลิตโดยอิหร่าน และคล้ายกับโดรนที่ถูกส่งไปยังรัสเซีย
ที่มาของภาพ, MAXAR TECHNOLOGIES
ภาพถ่ายดาวเทียมแสดงให้เห็นฐานทัพสหรัฐฯ ทางตอนเหนือของจอร์แดนที่ถูกโจมตี
แถลงการณ์ของศูนย์บัญชาการภูมิภาคกลางของกองทัพสหรัฐฯ (Central Command – Centcom) ระบุว่า การโจมตีเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 ก.พ. ประมาณเที่ยงคืนตามเวลาท้องถิ่น โดยพุ่งเป้าไปที่หน่วยรบพิเศษคุดส์ ซึ่งอยู่ภายใต้ร่มของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามอิหร่าน (Iran's Islamic Revolutionary Guards – IRGC) ที่มีอิทธิพลอย่างสูงต่อกองกำลังติดอาวุธที่เป็นพันธมิตรทั่วตะวันออกกลาง ตั้งแต่เลบานอน เยเมน ไปจนถึงซีเรีย
การโจมตีดังกล่าว ใช้เครื่องบินจำนวนมาก รวมถึง B-1 “เครื่องบินทิ้งระเบิดระยะไกลที่บินจากสหรัฐฯ ไปยังตะวันออกกลาง และโจมตีเป้าหมายทั้งหมด 85 จุดใน 7 พื้นที่ มีการใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ที่แม่นยำมากกว่า 125 นัด” แถลงการณ์ระบุ
พล.ท.ดักลาส ซิมส์ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการร่วมของสหรัฐฯ กล่าวว่า "ค่อนข้างมั่นใจ" ว่าสถานที่เหล่านั้น "มีนัยสำคัญอย่างมากต่อการลดขีดความสามารถลง"
“เราจะรู้เงื่อนไขต่าง ๆ ดีขึ้นในแง่ของ [การประเมิน] ว่าจะเป็นอย่างไรในวันพรุ่งนี้” พล.ท.ซิมส์ กล่าว
ที่มาของภาพ, US Central Command via X/Reuters
เป้าหมายโจมตีทางอากาศทั้ง 85 จุด เป็นองค์กรติดอาวุธหลากหลายกลุ่มที่เชื่อกันว่าได้รับทุน และการฝึกอบรมจาก IRGC
แถลงการณ์ของกองทัพสหรัฐฯ ระบุถึงเป้าหมายในการโจมตี อาทิ ศูนย์บัญชาการและควบคุมคลังเก็บจรวด ขีปนาวุธ และโดรน รวมถึงศูนย์กลางโลจิสติกส์และหน่วยจัดเก็บโดรน ครอบคลุมพื้นที่ 7 แห่ง 4 แห่งอยู่ในซีเรีย และอีก 3 แห่งอยู่ในอิรัก ใช้เวลาราว 30 นาที
สำนักข่าวเอเอฟรีรายงานโดยอ้างองค์กรสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนซีเรีย ระบุว่า ปฏิบัติการโจมตีของกองทัพสหรัฐ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 18 ราย ทั้งหมดเป็นสมาชิกกองกำลังฝักใฝ่อิหร่าน
ไม่มีการโจมตีบนดินแดนอิหร่าน และเรือรบของอิหร่านในทะเลแดงซึ่งคาดว่ามีส่วนร่วมโดยตรงในการช่วยกลุ่มฮูตีโจมตีเรือสินค้า ก็ไม่ได้ตกเป็นเป้าหมายแต่อย่างใด
สำหรับกลุ่มกบฏฮูตีประกาศให้การสนับสนุนกลุ่มฮามาส และบอกว่าจะโจมตีเรือสินค้าทุกลำที่มุ่งหน้าไปยังอิสราเอล
ที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐฯ กล่าวหาว่าอิหร่าน “มีส่วนพัวพันถึงเบื้องลึก” ในการวางแผนให้กลุ่มกบฏฮูตีปฏิบัติการโจมตีเรือสินค้าในทะเลแดง
อิหร่านปฏิเสธว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีทาวเวอร์ 22
“ไม่มีภัยคุกคามใด ที่จะไม่ได้รับคำตอบ” พล.ต.ฮอสเซน ซาลามี ผู้บัญชาการ IRGC ซึ่งให้คำปรึกษาแก่ อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน กล่าวเมื่อวันพุธ (31 ม.ค.) ก่อนที่การตอบโต้ของสหรัฐฯ จะเริ่มต้นขึ้น
คำพูดของเขามีขึ้น 1 วันหลังจาก อามีร์ ซาอีด อิราวานี เอกอัครราชทูตอิหร่านประจำสหประชาชาติ กล่าวกับผู้สื่อข่าวชาวอิหร่านในนิวยอร์กว่า เตหะรานจะ "ตอบโต้ขั้นเด็ดขาด" ต่อการโจมตีใด ๆ ก็ตามต่อประเทศนี้ ตามรายงานของสำนักข่าวแห่งชาติของอิหร่าน
ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า ความล่าช้าเกือบหนึ่งสัปดาห์มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้อิหร่านถอนกำลังพลออก และอาจหลีกเลี่ยงความขัดแย้งในวงกว้างได้
“ถ้าคุณรู้ว่าคุณเป็นเป้าหมาย คุณก็แค่หายตัวไป” เจ้าหน้าที่อิรักคนหนึ่งบอกกับบีบีซี
หนึ่งในการสนองตอบจากอิหร่านที่อาจเกิดขึ้น อาจคล้ายคลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่วันหลังจากการลอบสังหาร พล.อ.กาเซ็ม โซไลมานี ผู้บัญชาการทหารของอิหร่าน ที่ถูกสหรัฐฯ ใช้โดรนสังหารที่อิรักเมื่อต้นปี 2020
5 วันหลังจากการลอบสังหาร อิหร่านยิงขีปนาวุธใส่ฐานทัพสหรัฐฯ ในซีเรีย หลังจากแจ้งให้สหรัฐฯ ทราบล่วงหน้าหลายชั่วโมง
ล่าสุดวันที่ 4 ก.พ. กองทัพสหราชอาณาจักและสหรัฐฯ ได้เริ่มการโจมตีระลอกที่สาม โดยมีเป้าหมายคือ กลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน เพื่อตอบโต้การโจมตีอย่างต่อเนื่องต่อเรือขนส่งสินค้าในทะเลแดงของกลุ่มฮูตีที่อิหร่านให้การสนับสนุน
สำหรับการโจมตีครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากกองทัพจากออสเตรเลีย, บาห์เรน, แคนาดา, เดนมาร์ก, เนเธอร์แลนด์ และนิวซีแลนด์
ในแถลงการณ์ร่วมของทั้งสองประเทศ ระบุว่า มีเป้าหมายโจมตีทั้งหมด 36 จุด ใน 13 พื้นที่ในเยเมน โดยพุ่งเป้าเพื่อฝังทำลายคลังเก็บอาวุธ, ระบบขีปนาวุธและเครื่องยิงขีปนาวุธ, ระบบป้องกันการโจมตีทางอากาศและเรดาร์
นอกจากนี้ ยังมีศูนย์บังคับการโดรนชายฝั่ง
นายแกรนท์ แชปส์ รัฐมนตรีกลาโหมอังกฤษ ระบุว่า การโจมตีครั้งล่าสุดนี้ "ไม่ใช่การยกระดับ" เป็นเพียงส่วนหนึ่งของภารกิจที่มีในปัจจุบันเพื่อลดขีดความสามารถการโจมตีของกลุ่มฮูตี
การโจมตีครั้งนี้ เกิดขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังจากกองทัพสหรัฐโจมตีเป้าหมาย 85 จุดในซีเรียและอิรัก เพื่อตอบโต้การที่ฐานทัพสหรัฐฯ ถูกด้วยโดรนสังหารเมื่อวันที่ 28 ม.ค. ส่งผลให้ทหารชาวอเมริกันเสียชีวิต 3 นาย และบาดเจ็บกว่า 40 นาย
© 2024 บีบีซี. บีบีซีไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อเนื้อหาของเว็บไซต์ภายนอก. นโยบายของเราเรื่องการเชื่อมต่อไปยังลิงก์ภายนอก. อ่านเกี่ยวกับแนวทางของเราในการติดต่อกับลิงก์ภายนอก
Related Stories
พฤษภาคม 17, 2024