ประมวลข่าวทั่วไทยประจำวันที่ 26 เมษายน 2566
การเมือง/มั่นคง
กกต. ชี้แจงยืนยันดำเนินการปรับปรุงแก้ไข กรณีประกาศรายชื่อพรรคการเมือง และภาพผู้สมัครไม่ชัดเจน ให้ถูกต้องครบถ้วนเรียบร้อยแล้ว
ตามที่ปรากฏข่าวเกี่ยวกับการปิดประกาศรายชื่อพรรคการเมือง ที่ยื่นบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ (ส.ส. 4/23) ประกาศรายซื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง (ส.ส. 4/14) ที่ปิดประกาศที่ป้ายประกาศหน้าหน่วยเลือกตั้งของบางเขตเลือกตั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานครไม่ชัดเจน รวมถึงภาพผู้สมัครรับเลือกตั้งกรุงเทพมหานคร ที่เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผ่านทางเว็บไซต์ของกรุงเทพมหานคร มีสีไม่ชัดเจน นั้น
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ขอเรียนว่า สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร และสำนักประชาสัมพันธ์ กรุงเทพมหานคร ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้องครบถ้วนเรียบร้อยแล้ว และยืนยันพร้อมจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป ในวันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม 2566 ด้วยความสุจริต โปร่งใส เที่ยงธรรม และชอบด้วยกฎหมาย
เศรษฐกิจ/ท่องเที่ยว
THAIFEX – ANUGA ASIA 2023 ครบวงจรที่สุดในเอเชีย คาดเงินสะพัดกว่า 70,000 ล้านบาท 23-27 พฤษภาคมนี้
นางสาวณัฐิยา สุจินดา ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการค้าสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับหอการค้าไทย และโคโลญเมสเซ่ เตรียมจัดงาน THAIFEX – ANUGA ASIA 2023 อย่างเต็มรูปแบบ ในวันที่ 23-27 พฤษภาคม 2566 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี เพื่อสร้างโอกาสทางการตลาด ค้นหานวัตกรรม เทคโนโลยี แรงบันดาลใจ เชื่อมต่อธุรกิจทุกภาคส่วนในวงการอาหารและเน้นย้ำให้ทั่วโลกเห็นศักยภาพของประเทศไทย ในฐานะผู้นำในการผลิตและส่งออกอาหารที่มีคุณภาพมาตรฐานระดับโลก
โดยปีนี้จะมีผู้ประกอบการมาร่วมจัดแสดงสินค้ากว่า 3,000 บริษัท ประมาณ 5,500 คูหา รวม 43 ประเทศ ทั้งเอเชียตะวันออก อาเซียน ยุโรป สหรัฐอเมริกา ลาตินอเมริกา ตะวันออกกลาง ออสเตรเลีย เป็นต้น คาดการณ์ว่าจะมีผู้เข้าชมงานมาเจรจาการค้ากว่า 60,000 คน จาก 120 ประเทศทั่วโลก เนื่องจากอาหารและเครื่องดื่มของไทยได้รับความสนใจจากต่างชาติอย่างมาก พร้อมตั้งเป้าจะมีมูลค่าการสั่งซื้อกว่า 70,000 ล้านบาท และมีมูลค่าการสั่งซื้อออนไลน์ผ่าน THAIFEX Virtual Trade Show กว่า 1,500 ล้านบาท
ภายในงานจะมีการจัดแสดงสินค้าอาหารทุกประเภท อาหารทะเล เนื้อสัตว์ อาหารแช่แข็ง ข้าว ผักและผลไม้ ขนมขบเคี้ยว เครื่องดื่ม ชาและกาแฟ เครื่องมือ/เครื่องใช้/อุปกรณ์ รวมถึงบริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม พร้อมกิจกรรมการแข่งขัน Thailand Ultimate Chef Challenge กิจกรรมเสวนาให้ความรู้และยังมีโซนพิเศษที่จะอัปเดตเทรนด์ผู้บริโภคจากหน่วยงานต่างๆ
นอกจากนี้ ยังมีการจัดงานแสดงสินค้าเสมือนจริง ในรูปแบบ THAIFEX – Virtual Trade Show ควบคู่กับการจัดทาง On Ground เพื่อรองรับความต้องการของผู้ที่ไม่สะดวกเดินทางมาชมงานด้วย
ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าชมงานล่วงหน้าได้ที่ www.thaifex-anuga.com โดยจะมีการเจรจาธุรกิจวันที่ 23–27 พฤษภาคม 2566 เวลา 10.00 น.-18.00 น. จำหน่ายปลีกวันที่ 27 พฤษภาคม 2566 เวลา 10.00 น.-20.00 น. ณ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 และอิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น เซ็นเตอร์ ฮอลล์ 5-12 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี
เกษตรกรรม/สิ่งแวดล้อม
กรมการข้าว เตรียมแจก 6 พันธุ์ข้าว 2,244 กิโลกรัม ในงานพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ
นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว เปิดเผยว่า เนื่องในวันพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคลแรกนาขวัญปีนี้ กรมการข้าวขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต จากพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดี ศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว นำเมล็ดพันธุ์ข้าวทรงปลูกพระราชทานทั้งหมด 6 พันธุ์ จำนวน 2,244 กิโลกรัม นำเข้าพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 16 – 17 พฤษภาคม 2566 และนำไปบรรจุซองพลาสติก จำนวน 400,000 ซอง เพื่อแจกจ่ายให้ผู้สนใจและชาวนาทั่วประเทศ รับไปเป็นมิ่งขวัญและสิริมงคล ประกอบด้วย ขาวดอกมะลิ 105 จำนวน 539 กิโลกรัม บรรจุ 80,000 ซองปทุมธานี 1 จำนวน 325 กิโลกรัม บรรจุ 60,700 ซอง กข43 จำนวน 386 กิโลกรัม บรรจุ 72,500 ซอง กข85 จำนวน 521 กิโลกรัม บรรจุ 98,600 ซอง และ กข87 จำนวน 400 กิโลกรัม บรรจุ 75,300 ซอง และกข6 จำนวน 73 กิโลกรัม บรรจุ 12,900 ซอง
สำหรับประชาชนที่สนใจพันธุ์ข้าวพระราชทาน สามารถสอบถามได้ที่ กรมการข้าว กองเมล็ดพันธุ์ข้าวที่เบอร์โทรศัพท์ 02-561-3794 และศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวทั้ง 29 แห่ง ศูนย์วิจัยข้าวทั้ง 27 แห่ง และสถาบันวิทยาศาสตร์ข้าวแห่งชาติ จังหวัดสุพรรณบุรี
นอกจากนี้ ผู้ที่สนใจยังสามารถรับเมล็ดพันธุ์พระราชทานผ่านการลงทะเบียนออนไลน์ได้ที่เว็บกรมการข้าว ได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 3 พฤษภาคม 2566 โดยสามารถรับรับพันธุ์ข้าวพระราชทานได้ตั้งแต่วันที่18 พฤษภาคม – 16 มิถุนายนนี้ ที่จุดให้บริการ ที่ได้ลงทะเบียนไว้ โดยจังหวัดกรุงเทพฯ สามารถรับเมล็ดพันธุ์ข้าวพระราชทานได้ที่ อาคารที่ทำการกรมการข้าว ชั้น 1 และส่วนภูมิภาคสามารถรับเมล็ดพันธุ์ข้าวพระราชทาน ได้ที่ สำนักงานเกษตรจังหวัดทั่วประเทศ
สังคม
กรมการจัดหางาน เตือนคนหางานระวังถูกหลอกไปทำงานเกาหลีใต้
นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า ขณะนี้พบตัวแทนผู้เสียหายร้องเรียนหลังถูกบุคคลแอบอ้างว่าสามารถพาไปทำงานประเทศเกาหลีใต้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย อ้างทุกขั้นตอนผ่านกรมการจัดหางาน แต่มีเงื่อนไขจะต้องจ่ายเงินก่อนค่าเดินเอกสารทำวีซ่า พาสปอร์ต คนละ 30,000-70,000 บาท และมีการจัดสัมมนาก่อนบิน แต่สุดท้ายไม่ได้เดินทาง เบื้องต้นพบผู้เสียหายในพื้นที่ชลบุรี ระยอง พิษณุโลก และสุโขทัย มูลค่าความเสียหายกว่า 6 แสนบาท
จากกรณีดังกล่าวหลังตรวจสอบพบว่า นายหน้าดังกล่าวไม่ได้รับอนุญาตจัดหางานให้คนหางานเพื่อไปทำงานต่างประเทศจากนายทะเบียน ดังนั้นจึงไม่สามารถจัดส่งคนงานไปทำงานในเกาหลีใต้ พร้อมย้ำว่า ผู้ใดที่จัดหางานให้คนหางานทำงานในต่างประเทศ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนจัดหางานกลาง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ถึง 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 60,000 – 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนผู้ที่สนใจเดินทางไปทำงานในเกาหลีใต้ ก่อนตัดสินใจหลงเชื่อการโฆษณา ขอให้ตรวจสอบรายชื่อบริษัทที่ได้รับอนุญาตจัดส่งได้ที่ เว็บไซต์กรมการจัดหางาน www.doe.go.th เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อการหลอกลวงคนไปทำงานต่างประเทศ
อธิบดีกรมการจัดหางาน เน้นย้ำวิธีเดินทางไปทำงานประเทศเกาหลีใต้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย มี 3 แบบ ได้แก่ การไปทำงานตามข้อตกลงความร่วมมือไทย-เกาหลี โครงการวีซ่า E-9 เพื่อทำงานในภาคอุตสาหกรรมการผลิต ภาคเกษตรและปศุสัตว์ และภาคก่อสร้าง ซึ่งเดินทางโดยกรมการจัดหางานเป็นผู้จัดส่ง การไปทำงานในภาคเกษตรตามฤดูกาล โครงการวีซ่า E-8 ซึ่งยังอยู่ระหว่างการทำงานข้อตกลงความร่วมมือ และการเดินทางไปทำงานในอุตสาหกรรมอู่ต่อเรือ โครงการวีซ่า E-7 หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการไปทำงานต่างประเทศสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทั่วประเทศ หรือโทร.1506 กด 2
กยศ.เชิญชวนผู้อยู่ระหว่างชำระหนี้ ใช้สิทธิตามมาตรการเพื่อลดดอกเบี้ยเงินกู้ยืมและเบี้ยปรับ
นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ได้มีมาตรการลดหย่อนหนี้ เพื่อช่วยเหลือผู้กู้ยืมที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยมาตรการดังกล่าวจะสิ้นสุดในวันที่ 30 มิถุนายนนี้ จึงขอเชิญชวนผู้กู้ยืมกองทุน กยศ. ที่อยู่ระหว่างการชำระหนี้ ใช้สิทธิเพื่อรับประโยชน์จากมาตรการตามกรอบเวลาดังกล่าว
มาตรการลดหย่อนการชำระหนี้ กยศ. ประกอบด้วย การลดดอกเบี้ยเงินกู้ยืมจากเดิมร้อยละ 1 ต่อปี เหลือร้อยละ 0.01 ต่อปี สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่อยู่ระหว่างการชำระเงินคืนกองทุนและไม่เคยเป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้, ลดเงินต้นร้อยละ 5 สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ไม่เคยเป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้และต้องการปิดบัญชีในคราวเดียว
นอกจากนี้ ยังมีการลดเบี้ยปรับร้อยละ 100 สำหรับผู้กู้ยืมเงินทุกกลุ่มที่ชำระหนี้ปิดบัญชี โดยแยกเป็นผู้กู้ยืมเงินที่ยังไม่ถูกดำเนินคดี สามารถชำระได้ที่ ธนาคารกรุงไทยและธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยทุกสาขา ส่วนผู้กู้ยืมเงินที่ถูกดำเนินคดีแล้ว ต้องลงทะเบียนขอรับสิทธิและนัดหมายวันที่ประสงค์จะชำระหนี้ปิดบัญชีได้ที่ https://www.studentloan.or.th/promotion เนื่องจากมีขั้นตอนที่ผู้กู้ยืมต้องชำระค่าทนายความและค่าฤชาธรรมเนียมศาลให้เสร็จสิ้นก่อนปิดบัญชี และลดเบี้ยปรับร้อยละ 80 สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ยังไม่ถูกดำเนินคดีที่ชำระหนี้ค้างทั้งหมดให้มีสถานะปกติ
ข้อมูลข่าวและที่มา
ผู้สื่อข่าว : ธนพิชฌน์ แก้วกา
ผู้เรียบเรียง : ธนพิชฌน์ แก้วกา
แหล่งที่มา : หน่วยงานสำนักข่าว
{{item.title}}
{{item.date}}
90-91 ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. 10310
โทรศัพท์ 02-248-8600, Fax 02-369-2579
nnt.thainews © 2021 All rights reserved.