Online
10 ก.พ. 2566
|
ชื่อ "ริว อาทิตย์" อดีตพระเอก ที่เคยโด่งดังในอดีต เมื่อ 30 ปีที่แล้ว ถูกพูดถึงอีกครั้ง หลังมีการนำเสนอข่าว ชีวิตตกต่ำ ไร้เงิน ไร้บ้าน ไร้ครอบครัว กินนอนข้างถนน บางครั้งต้องอาศัยอาบน้ำตามปั๊ม ทั้งยังป่วยเป็นไบโพล่าร์ 10 ปี โดยเจ้าตัวเผยว่า "โดนหาว่าบ้า จิตหลุด ไม่ปกติ 15 ปี เป็นมรสุมชีวิตที่ถาโถม ทั้งการทำงาน ชีวิตส่วนตัว และความสุขที่หายไป ต้องขายของเลี้ยงตัวเอง เพื่ออยากมีชีวิตใหม่ มีอนาคตใหม่ ทั้งป่วยเป็นไบโพล่าร์ รักษาตัวมานาน 10 ปี เข้าออก 5 โรงพยาบาล และใช้ธรรมะเยียวยาจนอาการก็ดีขึ้น" หลังออกจากวงการได้ 17 ปีพบว่าก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน "ริว อาทิตย์" เคยโพสต์ภาพตัวเอง นอนข้างถนน สภาพน่าสงสาร ในเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยเจ้าตัวเขียนแคปชั่นภาพว่า "นอนทั้งคืน ยุงกัดด้วย" ทั้งเคยไลฟ์สดตัวเอง หาที่นอนตามข้างถนน เขียนข้อความว่า "หาที่นอนคืนนี้ เรามันคนไร้บ้าน" ทั้งนี้ "ริว อาทิตย์" เปิดใจผ่านรายการคุยแซ่บโชว์ อีกด้วยว่า "ด้วยความที่ครอบครัว หมายถึงตัวภรรยาเองก็ต้องคาดหวังว่าผมน่าจะเป็นพระเอกจริง ๆ แต่ทีนี้ผมไม่ใช่ ในชีวิตจริงผมยอมรับเลย ผมเป็นคนเจ้าชู้ แล้วผมก็พูดเลยตั้งแต่ก่อนคบว่าถ้าจะคบกับผมรับได้ไหมในความเจ้าชู้ เขาก็บอกว่ารับได้ในความเป็นตัวริว ผมถามว่าแน่นะ ถ้ารับได้ผมก็คบ ก็เลยตัดสินใจอยู่ ตัวปัญหาเหล่านั้นผมไม่ได้จะพูดถึงว่าจบยังไงหรือมีปัญหายังไง แต่ผมพูดคร่าว ๆ ว่าผมได้มีลูกกับเขา แล้วปัญหาในครอบครัวต่าง ๆ นานา เกี่ยวกับเรื่องนู้นเรื่องนี้ผมจะไม่ขอพูดถึง เพราะว่าทุกวันนี้เขาก็มีชีวิตที่ดี แล้วลูกผมก็น่ารักพอหลังจากชีวิตความรักในครอบครัวไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากเรามองภาพสวยเกินไป ถ้ามีลูก เราจะพาลูกไปตรงนั้น จะเลี้ยงลูกแบบนี้ เราจะซื้อเสื้อผ้าให้ลูก แต่งตัวให้ลูกอย่างนี้นะ คนเป็นพ่อจะเป็น เราจะปูเส้นทางให้เขาเดินยังไง ปรากฏว่าเส้นทางที่เราคิดกับความเป็นจริงมันสวนทางกัน
เนื่องจากพอผมจบพังทลายกับชีวิตครอบครัว ลูกก็ไม่ได้อยู่ด้วยกัน มีปากเสียงกันนิดหน่อย แล้วแยกย้ายกัน และการที่ผมจะไปพบลูก ถ้าผมไปในสภาพที่ผมไม่มีเงิน ซึ่งคนเป็นพ่อจริง ๆ ก็อยากให้เงินเขา เราอยากดูแลเขา การที่ผมเจอทุกครั้งมันต้องใช้เงิน ผมก็จะรู้สึกว่าลูกผมเป็นตัวประกันหรือเปล่า แต่ผมก็ไม่ได้คิดอย่างนั้น ผมคิดว่าถ้าผมมี ผมให้ แล้วผมก็ให้จริงๆ ผมเซ็นเช็คทีละ 3 -4 แสน ผมให้จริง ๆ เพราะไม่ได้บ่อยเลยที่ผมมีโอกาสเข้าไปเจอลูก แต่ทุกครั้งที่ผมเจอลูก กอดลูกมันมีน้ำตา
เรื่องงานผมไปได้ดีมาก เรื่องเงินทุกอย่างไม่มีปัญหาเลย แต่มีปัญหาเรื่องชื่อเสียงนี่แหละครับ พอมันเป็นข่าวทุกคนก็เอากระแส เกาะติดกระแส สื่อโน้นก็เขียนอย่างนั้น แยกประเด็นผมบ้า ผมเพี้ยน ผมทำร้ายภรรยา ประดังเข้ามาเป็นกระแสไวรัลอยู่ในยุคโซเชียลเริ่มต้นของสมัยนั้นที่เป็นสมาร์ทโฟนเข้ามา มีเฟซบุ๊ก hi5 เข้ามา กลายเป็นว่าหน้าจอตั้งอยู่แบบนี้ แต่ความเครียดโผล่ให้เห็นของคนทั่วประเทศ
แต่ผมจะไม่โทษโซเชียล เพราะโซเชียลจะเป็นฟรีความคิดเห็นของคนว่าความรู้สึกผมเอ๊ะอ่านข่าวนี้เขาจะเชื้อหรือไม่ จะให้กำลังใจหรือด่า อันนี้ผมไม่เคยว่า แต่ผมก็บอกกับตัวภรรยาแล้วว่าอย่าไปสนใจได้ไหมกับกระแสพวกนี้ มันนานาจิตตัง ตัวผมเองทำงานในวงการบันเทิงผมรู้สิว่าถ้าเราไปแคร์มากกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์แสดงว่าผมคงไม่ต้องทำงานอะไรแล้ว ยอมแพ้ในชีวิต เพราะฉะนั้นเรื่องงานผมสำคัญมาก 1.การเป็นพระเอกไม่ง่าย เพราะฉะนั้นเวลาข่าวอะไรมากระทบแน่นอน แต่สื่อมวลชนรู้ไหม ถ้าเป็นตัวคุณเอง ครอบครัวคุณเอง มีคนไปเขียนเรื่องคุณ แต่โอเคคุณไม่ใช่ดารา ไม่ใช่ศิลปิน แต่ตัวคุณเป็นคนเขียน นามปากกาคุณ คุณเคยรับผิดชอบอะไรไหมในชีวิตที่มันพังไป" ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวที่น่าสนใจ
เพิ่ม คมชัดลึก ออนไลน์
ลงในหน้าจอหลักของคุณ
Related Stories
ตุลาคม 14, 2024