วันพุธ ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566
Box Office Mojo เปิดเผยรายได้ประจำสุดสัปดาห์ที่ 20-22 ม.ค. 2566 ในสหรัฐ โดย “Avatar: The Way Of Water” (2565) ภาพยนตร์ภาคต่อที่ทุกคนรอคอย ยังคงครองอันดับหนึ่งบนตารางหนังทำเงินอย่างต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 6 ซึ่งโกยรายได้ไปอีก 20 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้รายได้รวมทั่วโลกของ The Way of Water อยู่ที่ 2,024 ล้านดอลลาร์ กลายเป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 6 ที่สามารถทำรายได้ผ่านทะลุ 2,000 ล้าน ขึ้นแท่นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลในอันดับที่ 6 (ข้อมูลวันที่ 23 ม.ค. 2566)
สำหรับภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดในโลก ซึ่งกวาดรายได้ไปได้มากกว่า 2,000 ล้านดอลลาร์ทั้ง 6 เรื่อง ประกอบไปด้วย
1. Avatar (2009) – 2,923 ล้านดอลลาร์
“Avatar” เข้าฉายครั้งแรกในปี 2009 เป็นภาพยนตร์ไวไฟแปลกแหวกแนวของ ผู้กำกับมือฉมัง “เจมส์ คาเมรอน” นำแสดงโดย “แซม วอชิงตัน” และ “โซอี้ ซัลดานา” พร้อมปฏิวัติวงการภาพยนตร์ ด้วยการเข้าฉายในระบบเทคโนโลยีการฉายแบบ 3 มิติเป็นเรื่องแรก อีกทั้งงานด้านภาพที่เป็นจุดเด่นของภาพยนตร์ ด้วยความงดงามเหนือจินตนาการของอาณาจักรแพนโดรา และชนเผ่านาวีที่มีตัวสีฟ้าแปลกตา ล้วนดึงดูดให้ผู้ชมดำดิ่งเข้าสู่โลกของภาพยนตร์อย่างง่ายดาย จนเกิดเป็นกระแสปากต่อปาก ทำให้ผู้ชมต้องการพิสูจน์ความแปลกใหม่ของนวัตกรรมสุดล้ำ
หลังจากนั้น Avatar ได้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์อีกหลายครั้ง โดยครั้ง 2 เข้าฉายในปี 2553 ในชื่อว่า Avatar 2010 Special Edition ซึ่งมีความยาวมากกว่าเวอร์ชันต้นฉบับ ส่วนครั้งที่ 3 เข้าฉายในปี 2563 ในกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิก ขณะที่ครั้งที่ 4 เป็นการเข้าฉายครั้งแรกในประเทศจีนเมื่อปี 2564 เก็บรายได้เพิ่มไปกว่า 57 ล้านดอลลาร์
ในปีที่แล้ว Avatar กลับเข้าฉายในหลายประเทศทั่วโลกเป็นครั้งที่ 5 ในชื่อว่า “Avatar [Re-Release]” ที่มาพร้อมกับฟุตเทจเพิ่มเติมจากภาพยนตร์เวอร์ชันปี 2009 นอกจากนี้ ยังได้ปรับปรุงภาพภาพยนตร์ให้คมชัดระดับ 4K HDR เฟรมเรต 48 ภาพต่อวินาทีที่ให้ภาพที่นุ่มนวลยิ่งขึ้น เหมือนกับภาพที่ดวงตามนุษย์มองเห็น ให้ผู้ชมได้สัมผัสกับภาพยนตร์อย่างเต็มตา เต็มอารมณ์
จากการเข้าฉายทั้ง 5 ครั้งจึงทำให้ Avatar กวาดรายได้รวมทั่วโลกไปทั้งสิ้น 2,923 ล้านดอลลาร์ ครองตำแหน่งภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล โดยที่ยังไร้วี่แววคู่แข่งจะมาล้มแชมป์ลงไปได้
2. Avengers: Endgame (2019) – 2,799 ล้านดอลลาร์
“Avengers: Endgame” (2019) เป็นบทสรุปของเรื่องราวในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล (MCU) ที่ปูเรื่องราวมาถึง 10 ปี และรวบรวมซูเปอร์ฮีโร่ไว้มากถึง 36 ตัวละคร เป็นการเผชิญหน้ากันครั้งสุดท้ายของเหล่า Avengers และ ธานอส วายร้ายตัวตึงระดับจักรวาล จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ผู้ชมต่างจะพากันไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้จนกวาดรายได้ตลอดการฉายไปถึง 2,799 ล้านดอลลาร์ คว้าอันดับ 2 ภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลได้สำเร็จ
อย่างไรก็ตาม Avengers: Endgame เคยรั้งอันดับ 1 ภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดชั่วขณะหนึ่งก่อนที่ Avatar จะกลับมาเข้าฉายใหม่ และทำรายได้ปาดหน้าเบียด Endgame ขึ้นเป็นที่ 1 แทน แต่ถึงอย่างนั้น Endgame ก็ยังคงเป็นภาพยนตร์ที่อยู่ในใจของใครหลายคน และมีฉากประทับใจที่อยู่ในความทรงจำมากมาย แสดงให้เห็นว่าสิ่งที่ Marvels พยายามสร้างจักรวาลมาอย่างยาวนานนั้นไม่เสียเปล่า
3. Titanic (1997) – 2,194 ล้านดอลลาร์
ก่อนหน้าที่ Avatar จะเข้าฉายและครองตำแหน่งภาพยนตร์ที่ทำรายได้อันดับ 1 นั้น “Titanic” ภาพยนตร์โศกนาฏกรรมเหตุการณ์เรือล่มที่เกิดขึ้นจริง เคยครองอันดับ 1 มาก่อน ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นผลงานการกำกับของ “เจมส์ คาเมรอน” อีกเช่นกัน นำแสดงโดย ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ และ เคต วินสเล็ต
นอกจากจะประสบความสำเร็จในด้านรายได้แล้ว Titanic ยังได้รับรางวัลจากเวทีประกาศรางวัลนับไม่ถ้วน โดยกวาดรางวัลออสการ์มาได้ถึง 11 รางวัล รวมถึงสาขาใหญ่อย่างภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ผู้กำกับยอดเยี่ยม ขณะที่เพลงประกอบภาพยนตร์อย่าง “My Heart Will Go On” ก็ฮิตไปทั่วโลก ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้กลายเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ขึ้นหิ้ง ที่ไม่ว่าจะดูกี่ครั้งก็ยังเรียกน้ำตาได้เสมอ
เนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 25 ปี ของภาพยนตร์ Titanic จะมีกำหนดเข้าฉายอีกครั้งในโรงภาพยนตร์ ในเดือนก.พ. 2023 โดยจะมาพร้อมกับภาพที่มีความคมชัดระดับ 4K HDR เฟรมเรต 48 ภาพต่อวินาที
4. Star Wars: Episode VII – The Force Awakens (2015) – 2,071 ล้านดอลลาร์
Star Wars เป็นอีกหนึ่งแฟรนไชส์ภาพยนตร์ที่ได้รับความนิยมตลอดมา โดย “Star Wars: Episode VII – The Force Awakens” ที่เข้าฉายในปี 2015 เป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดของภาพยนตร์ชุดนี้ สามารถทำรายได้ไปถึง 2,071 ล้านดอลลาร์ กลายเป็นอันดับ 4 ของภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล เนื่องจากเป็นภาพยนตร์ภาคใหม่ที่เข้าฉายครั้งแรกในรอบ 10 ปี และเป็นการเปิดไตรภาคใหม่ หลังจาก Star Wars: Episode III — Revenge of the Sith ภาคก่อนหน้าที่เข้าฉายไปตั้งแต่ปี 2005
สำหรับภาพยนตร์ Star Wars ภาคใหม่นั้น ดิสนีย์ได้กำหนดวันไว้ด้วยกัน 3 เรื่อง คือ “Star Wars: Rogue Squadron” ของผู้กำกับ Wonder Woman ทั้ง 2 ภาค อย่าง “แพตตี เจนคินส์” มีกำหนดฉายปลายปีนี้ ส่วนอีก 2 เรื่อง ยังไม่มีชื่อเรื่อง แต่กำหนดวันเข้าฉายปี 2025 และ 2027 ตามลำดับ ซึ่งคาดว่า 1 ใน 2 เรื่องนี้จะเป็นของผู้กำกับ “ไทกา ไวตีติ” ผู้กำกับ “Thor: Love and Thunder”
5. Avengers: Infinity War (2018) – 2,052 ล้านดอลลาร์
"Avengers: Infinity War" (2018) เป็นภาพยนตร์รวมพลซูเปอร์ฮีโร่ฟอร์มยักษ์ของ MCU ที่เป็นการเผชิญหน้ากันครั้งแรกของทีมอเวนเจอร์ส และ ธานอสที่หวังจะควบคุมประชากรให้หายไปครึ่งจักรวาล
Infinity War ทำรายได้ไป 2,052 ล้านดอลลาร์ รั้งอันดับ 5 ภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล ซึ่งเป็นภาคต้นของ Avengers: Endgame ที่มาทุบทุกสถิติของภาพยนตร์เรื่องนี้ลงราบคาบ
6. Avatar: The Way of Water (2022) – 2,024 ล้านดอลลาร์
อันดับที่ 6 ยังคงเป็นภาพยนตร์ของ “เจมส์ คาเมรอน” กับ Avatar: The Way of Water (2022) ภาพยนตร์ภาคต่อของ Avatar ภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล ด้วยการหาข้อมูลอย่างหนักและลงไปสำรวจใต้ท้องทะเลจริงของคาเมรอน ทำให้ภาคนี้เข้าฉายห่างจากภาคแรกถึง 13 ปี
แม้ว่า Avatar 2 เปิดตัวด้วยรายได้ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของทุกฝ่าย แต่กลับทำรายได้ทะลุ 1,000 ล้านดอลลาร์ ด้วยเวลาเพียง 2 สัปดาห์หลังเข้าฉายทั่วโลก อีกทั้งยังสามารถทำรายได้แตะหลัก 2,000 ล้านดอลลาร์ ในเวลาเพียง 39 วัน ทำให้เป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้ทะลุหลักนี้เร็วที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจาก Avengers: Endgame และเร็วกว่า Avatar ภาคแรก 6 วัน
จากข้อมูลของ Hollywood Reporter รายงานว่า The Way Of Water ใช้งบประมาณเฉพาะการสร้างกว่า 350 ล้านดอลลาร์ ไม่นับรวมค่าการตลาดและค่าประชาสัมพันธ์อีกหลายสิบล้าดอลลาร์ ทำให้กลายเป็นหนึ่งในหนังที่มีต้นทุนสูงที่สุดเท่าที่เคยมีการสร้างกันขึ้นมา โดยคาเมรอนได้ให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร GQ ว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้จะถึงจุดคุ้มทุนก็ต่อเมื่อทำรายได้อย่างน้อยติดอันดับ 4 ภาพยนตร์ที่ทำเงินสูงสุดตลอดกาล ขณะที่นักวิเคราะห์ประเมินว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้จะเริ่มทำกำไรเมื่อทำรายได้ผ่าน 1,500 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากมีค่าทำ CG ที่สูงมาก
สำหรับแฟรนไชส์ Avatar ยังไม่หยุดอยู่เพียงเท่านี้ แต่จะมีถึงภาค 5 และมีกำหนดฉายต่อเนื่องถึงปี 2028 โดยคาเมรอนเปิดเผยว่า ภาค 3 ถ่ายทำเสร็จไปเรียบร้อยแล้วกำลังอยู่ในขั้นตอนการทำCG ขณะที่ภาค 4 และ 5 นั้นกำลังเขียนบทอยู่ ซึ่งแต่ละภาคจะพาผู้ชมไปผจญภัยในส่วนต่าง ๆ ของอาณาจักรแพนโดรา ต้องรอดูกันว่าคาเมรอนจะสร้างเซอร์ไพรส์อะไรให้แก่ผู้ชมได้อีก
จากรายชื่อภาพยนตร์ทั้ง 6 เรื่อง จะเห็นว่า เจมส์ คาเมรอน เป็นผู้กำกับเพียงคนเดียวที่ทำหนังรายได้ทะลุ 2,000 ล้านดอลลาร์ ถึง 3 เรื่องด้วยกัน คือ Avatar ทั้ง 2 ภาค และ Titanic ขณะที่ โซอี้ ซัลดานา กลายเป็นนักแสดงเพียงคนเดียวที่ได้เล่นภาพยนตร์ที่ทำรายได้ทะลุ 2,000 ล้านดอลลาร์ 4 เรื่อง ได้แก่ Avatar, Avatar: The Way of Water, Avengers: Endgame และ Avengers: Infinity War