![](https://www.xn--72cb4brw0a7cvcl5nycyb.com/wp-content/uploads/2024/01/wp-header-logo-315.png)
วันนี้ (8 ม.ค.2566) น.ส.ทิวาพร ผาสุข รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ผู้มีสิทธิจะสามารถใช้สิทธิผ่านบัตรประจำตัวประชาชนแบบสมาร์ทการ์ด ซึ่งในเดือนมกราคม 2567 จะได้รับสิทธิ ดังนี้
เป็นวงเงินสิทธิไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป
– วงเงินซื้อสินค้า 300 บาทต่อคนต่อเดือน
สำหรับผู้มีสิทธิที่ยืนยันตัวตนวันที่ 27 พ.ย. – 26 ธ.ค. 2566 และเริ่มใช้สิทธิได้วันที่ 1 ม.ค.2567 จะไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง ยกเว้น ผู้ผ่านสิทธิกลุ่มตกหล่นรอบอุทธรณ์ และผู้ผ่านสิทธิรอบอุทธรณ์ (เพิ่มเติม) ครั้งที่ 2 จะได้รับการทบสิทธิวงเงินค่าซื้อสินค้า 9 เดือน (ของเดือน เม.ย. – ธ.ค.2566) รวมจำนวน 2,700 บาท
– วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน (ม.ค. – มี.ค.2567)
– วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาทต่อคนต่อเดือน ประกอบด้วย บขส. รถไฟ ขสมก. รถไฟฟ้า MRT (สายสีน้ำเงิน/สีม่วง) BTS (สายสีเขียว/สีทอง/สีเหลือง/สีชมพู) ARL (Airport Rail Link/สายสีแดง) และรถโดยสารเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ
โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขประจำตัวประชาชน 13 หลักของผู้มีสิทธิหรือบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้มีสิทธิหรือผู้รับมอบอำนาจที่ใช้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาท
– เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน
สำหรับผู้มีสิทธิที่เป็นคนพิการ ซึ่งมีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาทต่อเดือน ที่ยืนยันตัวตนวันที่ 27 พ.ย. – 26 ธ.ค.2566 จะไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง ยกเว้น ผู้ผ่านสิทธิกลุ่มตกหล่นรอบอุทธรณ์ และผู้ผ่านสิทธิรอบอุทธรณ์ (เพิ่มเติม) ครั้งที่ 2 จะได้รับการทบสิทธิเงินเพิ่มเบี้ยความพิการ (ของเดือนเม.ย. – ธ.ค.2566) ตามเดือนที่ได้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาท
อ่านข่าวอื่นๆ :
กกพ.เล็งประกาศค่าไฟงวดใหม่ กลุ่มผู้ใช้ไฟเกิน 300 หน่วย
สุดเจ๋ง! นศ.อาชีวะคว้ารางวัลชนะเลิศแกะสลักหิมะนานาชาติ