![](https://www.xn--72cb4brw0a7cvcl5nycyb.com/wp-content/uploads/2024/04/wp-header-logo-475-1024x576.png)
วันจันทร์ ที่ 15 เมษายน 2567
อิสราเอลเริ่มจับสัญญาณได้ว่ามีการยิงโดรนจากอิหร่านเมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นเมื่อวันเสาร์ที่ 13 เม.ย. ซึ่งโดรนเหล่านี้ข้ามมาถึงน่านฟ้าอิสราเอลและถูกยิงสกัดได้เมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. ขณะที่เสียงไซเรนเตือนภัยและเสียงระเบิดดังขึ้นในหลายเมืองทั่วอิสราเอล ซึ่งรวมถึงกรุงเทลอาวีฟ และเยรูซาเล็ม
อิสราเอลอ้างว่ามีการยิงสกัดโดรนและขีปนาวุธจากอิหร่านมากกว่า 300 ลูก แต่ส่วนใหญ่มากกว่า 99% ถูกยิงสกัดเอาไว้ได้ โดยมีกองกำลัง "สหรัฐ" และ "สหราชอาณาจักร" เข้าร่วมในการปกป้องน่านฟ้าอิสราเอลครั้งนี้ด้วย โดยอิสราเอลระบุว่า "ไม่มีผู้เสียชีวิต" จากการโจมตีครั้งนี้ และผู้ได้รับบาดเจ็บบางรายส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากการโจมตีโดยตรงของอิหร่าน
นอกจากการโจมตีโดยตรงจากอิหร่านแล้ว อิสราเอลยังรายงานว่ามีการยิงขีปนาวุธ 25 ลูก มาจากเลบานอน ส่งผลให้มีการเตือนภัยดังขึ้นทั่วพื้นที่ที่ราบสูงโกลัน (Golan Heights) โดยเฉพาะในนิคม Ortal และนิคม Sha'al โดยเป็นการโจมตีต่อเนื่องหลังจากที่มีการยิงขีปนาวุธอย่างน้อย 10 ลูกจากเลบานอนเข้าโจมตีพื้นที่ภาคเหนือของอิสราเอล เมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์
เมื่อวันที่ 1 เม.ย. เกิดเหตุเครื่องบินรบที่ต้องสงสัยว่าอาจเป็นของอิสราเอล ทิ้งระเบิดใส่สถานกงสุลอิหร่านในกรุงดามัสกัส ประเทศซีเรีย ส่งผลให้เจ้าหน้าที่กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่านเสียชีวิต 7 นาย และในจำนวนนี้เป็นระดับผู้บัญชาการถึง 2 นาย
อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ประกาศกร้าวในสุนทรพจน์เนื่องในโอกาสสิ้นสุดเดือนรอมฎอนก่อนหน้านี้ว่า "อิสราเอลต้องถูกลงโทษ" โดยย้ำว่าการโจมตีสถานกงสุล ก็เหมือนกับโจมตีแผ่นดินของอิหร่าน
หลายฝ่ายวิตกว่าสถานการณ์นี้อาจนำไปสู่ "สงครามของจริงระหว่างอิหร่านและอิสราเอล" ตามมา หลังจากที่มีสงครามตัวแทนอยู่แล้วผ่านกลุ่มติดอาวุธต่างๆ เช่น ฮิซบอลเลาะห์และฮูตี ซึ่งตะวันตกอ้างว่าอิหร่านให้การสนับสนุนกลุ่มเหล่านี้อยู่ แต่หากมีการเปิดหน้าทำสงครามโดยตรงระหว่าง 2 ประเทศก็จะยิ่งทวีความตึงเครียดในตะวันออกกลางขึ้นเป็นทวีคูณ จากเดิมที่มีการสู้รบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มติดอาวุธฮามาส ที่ยืดเยื้อมาแล้วครึ่งปี มีผู้เสียชีวิตรวมแล้วมากกว่า 35,000 คน
ล่าสุด กระทรวงการต่างประเทศของอิหร่านได้ออกแถลงการณ์แล้วว่า การโจมตีอิสราเอลครั้งนี้เป็นการ "ป้องกันตัวเอง" หลังเกิดเหตุถล่มสถานทูตในซีเรีย
ทางด้านอามีร์ ซายอิด อิราวานี เอกอัคราชทูตผู้แทนถาวรของอิหร่านประจำสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ออกแถลงการณ์เตือนว่า การโจมตีของอิหร่านจะรุนแรงและเด็ดเดี่ยวมากขึ้นกว่านี้ หากอิสราเอลตอบโต้กลับมา และย้ำว่าการโจมตีของอิหร่านครั้งนี้เป็นไปเพื่อตอบโต้การบุกถล่มสถานทูตและสถานกงสุลอิหร่านในซีเรีย เมื่อวันที่ 1 เม.ย.
"หากระบอบอิสราเอลกระทำการรุกรานทางทหารอีกครั้ง การตอบสนองของอิหร่านจะแข็งแกร่งขึ้นและเด็ดเดี่ยวยิ่งขึ้นอย่างแน่นอนและเด็ดขาด” ทูตอิหร่านระบุ
ซีเอ็นเอ็นรายงานอ้างโฆษกของนายกรัฐมนตรีอิสราเอลว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ได้โทรศัพท์สายตรงหารือกับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล เกี่ยวกับการโจมตีล่าสุดแล้ว แต่ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมออกมา
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ระดับสูงรายหนึ่งในรัฐบาลสหรัฐเปิดเผยกับซีเอ็นเอ็นว่า ไบเดนได้บอกกับเนทันยาฮูว่า "สหรัฐจะไม่เข้าร่วมในปฏิบัติการตอบโต้กลับอิหร่าน" และสหรัฐยังบอกกับเนทันยาฮูว่า อิสราเอลควรถือว่าเหตุการณ์ล่าสุดเป็น "ชัยชนะ" ของฝ่ายตนเอง เนื่องจากสามารถยิงสกัดการโจมตีได้ ทำให้ไม่มีความเสียหายร้ายแรงเกิดขึ้น
ทั้งนี้ ไบเดนซึ่งอยู่ระหว่างการหยุดพักผ่อนช่วงสุดสัปดาห์ในรัฐเดลาแวร์ ต้องบินกลับกรุงวอชิงตันดีซีอย่างกระทันกัน เพื่อประชุมฉุกเฉินร่วมกับคณะรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่นๆ หารือเกี่ยวกับกรณีอิหร่านยิงถล่มอิสราเอล ซึ่งก่อให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการลุกฮือเป็นวงกว้างในภูมิภาคตะวันออกกลาง
ไบเดนออกแถลงการณ์ล่าสุดระบุว่า จะเรียกประชุมผู้นำกลุ่มประเทศ G7 ในวันอาทิตย์นี้ เพื่อร่วมกันดำเนินการทางการทูตต่อการโจมตีอย่างอุกอาจของอิหร่าน และย้ำว่าทีมงานของตนจะยังคงติดต่อพูดคุยกับบรรดาผู้นำของอิสราเอลอย่างใกล้ชิดต่อไป
ไบเดนระบุว่า แม้สหรัฐจะไม่พบว่ามีการโจมตีผลประโยชน์ของสหรัฐ แต่รัฐบาลวอชิงตันจะยังคงระมัดระวังต่อทุกภัยคุกคาม และจะไม่ลังเลที่จะใช้ทุกวิถีทางที่จำเป็นในการปกป้องประชาชนของสหรัฐ
คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) จะจัดการประชุมฉุกเฉินขึ้นในเวลา 16.00 น. วันอาทิตย์ตามเวลาในนิวยอร์ก (ราว ตี 3 วันจันทร์ตามเวลาในไทย) ตามข้อเรียกร้องของผู้แทนอิสราเอลที่ขอให้มีการประชุมเรื่องอิหร่านเข้าโจมตีอิสราเอล
ด้านกระทรวงการต่างประเทศของ "จีน" ออกแถลงการณ์แสดงความกังวลอย่างถึงที่สุดต่อความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในขณะนี้ โดยระบุว่าเป็นผลสืบเนื่องที่เกิดขึ้นมาจากความขัดแย้งในกาซ่า และทุกฝ่ายจำเป็นต้องมีการหยุดยิงโดยทันที พร้อมกันนี้ ยังเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องใช้ความสงบและยับยั้งชั่งใจ เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุบานปลายต่อไป
ทางด้านนายกรัฐมนตรีโอลาฟ โชลท์ส ของ “เยอรมนี” ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการเดินทางเยือนประเทศจีน ได้ประณามเหตุโจมตีดังกล่าวโดยระบุว่า การโจมตีของนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ชอบธรรมและขาดความรับผิดชอบอย่างรุนแรง อิหร่านเพิ่มความเสี่ยงในภูมิภาคให้บานปลายขึ้น เยอรมนีจะยืนหยัดเคียงข้างอิสราเอลและจะหารือเกี่ยวกับสถานการณ์กับบรรดาประเทศพันธมิตรต่อไป
ที่มา: CNN, Bloomberg, Times of Israel, Aljazeera