วันนี้ (18 ม.ค.2567) จากกรณีเกิดเหตุโรงงานพลุระเบิด ในพื้นที่ หมู่ที่ 3 ต.ศาลาขาว อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี มีเสียชีวิต 23 คน และบาดเจ็บอีกหลายคน
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยข้อมูล การช่วยเหลือกรณีโรงงานพลุระเบิดที่ จ.สุพรรณบุรี ที่สามารถดำเนินการเบื้องต้น ดังนี้
อ่านข่าว : ระทึก! “โรงงานพลุระเบิด” สุพรรณบุรี ตาย 23 คน สาหัส 7 คน
1. กรณีเสียชีวิต จ่ายค่าจัดการศพ 29,700 บาท ถ้าเป็นหัวหน้าครอบครัวจ่ายเพิ่มอีก 29,700 บาท โดยใช้เงินจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือ อปท.
2. กรณีบาดเจ็บ สาหัสจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้น 4,000 บาท
3. ขอรับการช่วยเหลือเพิ่มเติมจากกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี ตามหลักเกณฑ์และแนวทางการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย ดังนี้
กรณีเสียชีวิต
– ค่าจัดการศพ รายละ 50,000 บาท
– เงินทุนเลี้ยงชีพแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต ครอบครัวละ 30,000 บาท
– เงินทุนเลี้ยงชีพแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต ที่มีบุตรอายุไม่เกิน 25 ปีบริบูรณ์ อีกครอบครัวละ 50,000 บาท
กรณีบาดเจ็บ
– เงินทุนเลี้ยงชีพผู้บาดเจ็บสาหัส รายละ 30,000 บาท
– เงินทุนเลี้ยงชีพผู้บาดเจ็บทั่วไป รายละ 15,000 บาท
พม.เร่งช่วยครอบครัว เหตุ “โรงงานพลุระเบิด” สลดพบ นร.ม.5 สูญเสียพ่อแม่
นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง กล่าวถึงการตรวจสอบใบอนุญาตเหตุโรงงานพลุระเบิดที่จังหวัดสุพรรณบุรี จนมีผู้เสียชีวิตหลายราย ว่า ได้ใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย ตั้งแต่ปี 2564 และต่อใบอนุญาตทุกปี โดยผ่านการอนุมัติจากนายอำเภอเมือง สุพรรณบุรี หลังผ่านหลักเกณฑ์ อาทิ ผู้ขออนุญาตไม่มีประวัติอาชญากรรม สถานที่ตั้งโรงงานเป็นไปตามระเบียบของกฎหมายผังเมือง รวมถึงผ่านการทำประชาคมจากชาวบ้านในพื้นที่ ส่วนในพื้นที่ กทม. ตนได้ให้มีการตรวจสอบว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่
ส่วนสาเหตุพลุระเบิดนั้น ยังไม่ทราบ แต่ขณะนี้มีการยืนยันแล้วว่ามีผู้เสียชีวิต 23 คน และล่าสุด เมื่อเช้าพบเพิ่มอีก 2 คน ที่ไม่สามารถยืนยันตัวตนได้ โดยเช้าวันนี้ทางนิติวิทยาศาสตร์ได้เข้าไปตรวจสอบพื้นที่ก่อนนำร่างไปพิสูจน์อัตลักษณ์ พร้อมย้ำว่า การตั้งโรงงานดังกล่าวได้รับการอนุญาตถูกต้อง และได้มีการกำชับแล้ว หลังเกิดเหตุพลุระเบิดที่ บ้านมูโนะ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส และได้ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบตลอด
ส่วนเหตุการณ์ระเบิด ที่ จ.สุพรรณบุรี จะสามารถดำเนินการเอาผิดทางกฎหมายผู้ใด อธิบดีกรมการปกครอง กล่าวว่า ต้องขอตรวจสอบสาเหตุที่แท้จริงก่อน ตอนนี้ยังไม่สามารถระบุต้นเหตุข้อเท็จจริงได้
เมื่อถามว่า โรงงานดังกล่าวเคยเกิดเหตุระเบิดแล้ว 5 ปี 2565 และมีผู้เสียชีวิต 1 คน ทำไม่ถึงได้รับการอนุญาตในตั้งโรงงาน อธิบดีกรมการปกครอง ย้ำว่า การได้รับอนุญาตจะต้องขอพื้นที่และทำประชาชนรับฟังเสียงชาวบ้านในพื้นที่ โดยทั้งหมดผ่านกระบวนการแล้ว ฉะนั้นขอให้ทางเจ้าหน้าที่ EOD ตรวจสอบหาสาเหตุก่อน เพราะมีการตั้งข้อสังเกตว่าทำไมถึงมีคนไปรวมตัวภายในโรงงานดังกล่าวเยอะ 23-25 คน ซึ่งไม่รู้ว่ามีงานเลี้ยงหรืออะไรหรือไม่ ก่อนที่จะเกิดเหตุ
ขณะที่หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ก็มีความห่วงใยและได้สั่งการจังหวัดให้ประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ และมอบเงินช่วยเหลือเยียวยานอกเหนือหน่วยงานกระทรวงอื่นด้วย
ส่วนที่สังคมมีการตั้งคำถามว่าเงินช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียชีวิตน้อยไปหรือไม่ อธิบดีกรมการปกครอง กล่าวว่า จะมีการหาหน่วยงานอื่นเข้ามาช่วยเหลือเพิ่มเติม เพราะผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ เป็นผู้ใหญ่และมีบุตร ที่ต้องศึกษาเล่าเรียน ดังนั้น จึงต้องดูว่าจะมีการตั้งกองทุนเพื่อมาดูแลหรือไม่ โดยทางผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี รับเรื่องดังกล่าวไปพิจารณาแล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ย้อนรอยโรงงานพลุระเบิด สุพรรณบุรี พบ พ.ย.65 เคยเกิดเหตุซ้ำจุดเดิม
ย้ายร่างผู้เสียชีวิตเหตุ “โรงงานพลุระเบิด” ออกจากที่เกิดเหตุ ส่งนักจิตวิทยาประกบผู้สูญเสีย
“วราวุธ” เดินหน้าช่วยเหตุ “โรงงานพลุระเบิด” ให้เดือดร้อนน้อยที่สุด