เดลินิวส์
ที่น่าสนใจคือ “สส.ก้าวไกลมีโอกาสโดนคดีกี่คน ?” น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.บางบอน กรุงเทพฯ เองก็กำลังมีปัญหาเกี่ยวกับคดี ม.112 ซึ่งเจ้าตัวขอเลื่อนฟังคำพิพากษาเป็น 14 ธ.ค. ถ้าเกิดมีปัญหาอะไรขึ้นมา สงสัย “กาโม่-อาชวิน อยู่บำรุง” บุตรชาย นายวัน อยู่บำรุง อดีต สส.บางบอน จะลงสนามแข่งในนามเพื่อไทย
อีกคนหนึ่งก็คือ นายปิยรัฐ จงเทพ สส.กรุงเทพฯ พรรคก้าวไกล ก็มีคดีเกี่ยวกับม็อบอยู่ ซึ่งก็รอว่ากันในศาล.. ไอ้ที่หนักสำหรับก้าวไกลคือ คดีหาเสียงยกเลิก ม.112 โดนร้องว่า ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 49 หรือไม่ หลักฐานหนึ่งคือกรณีกลุ่มทะลุวังเอาสติกเกอร์ไปให้แปะถึงบนเวทีหาเสียง ว่าจะยกเลิก ซึ่งไม่น่าถึงขั้นยุบพรรค เพราะจะสร้างกระแส “ผู้ถูกรังแก”
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าเบื่อหน่ายในสังคมข่าวการเมืองวันนี้ คือ “ข่าวปิงปอง” ถ้าจะให้อธิบายคำๆ นี้คือ “ข่าวที่ตอบโต้กันไปมาโดยหาสาระไม่ได้” นั่นคือเล่นตีวาทกรรมเอ็งชั่วข้าดี เอ็งว่าข้าชั่วเอ็งก็ชั่ว เอาเวลาไปปัดกวาดบ้านเอ็งดีกว่า
ข่าวปิงปอง ไม่ใช่ข่าวที่เอาข้อเท็จจริงในเชิงข้อมูลที่มีหลักฐานมาตอบโต้ แต่เรียกง่ายๆ “สักแต่ว่าด่า” เช่น สมมุติว่า มีใครวิจารณ์นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รมว.คลัง ที่หลุดปากพูดเรื่องตั๋วผู้กำกับ โดยเฉพาะก้าวไกลวิจารณ์ ก็จะมีพวก สส.หรือผู้ช่วย สส. หรือ สส.สอบตกหิวแสง ออกมาตอบโต้ว่า “เอาเวลาไปปัดกวาดบ้านตัวเองเถอะไป๊”
แล้วก็จะเอาข่าวที่มีประเด็นเรื่องเพศในพรรคก้าวไกล อย่างกรณี นายวุฒิพงศ์ คงเหลา สส.ปราจีนบุรี นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กรุงเทพฯ มาโจมตีแทนแบบเบี่ยงประเด็น ล่าสุดได้ของเล่นใหม่มาพ่วง คือ สส.เล็ก น.ส.ญาณธิชา บัวเผื่อน สส.จันทบุรี ถูกครหาว่า ตั้งสามีตัวเองเป็นผู้ช่วย สส. แถมยังมีทีมงานเป็นพวก “จัดหาเด็กเอ็น”
ข้างฝ่ายนายกฯ เสี่ยนิด เลือกที่จะปิดปากเรื่องตั๋ว นี่เป็นที่สังเกตได้ว่า เมื่อวันที่ 24 พ.ย.ไม่ลงมาให้สัมภาษณ์สื่อ และการสัมภาษณ์ก่อนหน้านั้น พอถูกถามก็ยิ้มบอก “ขอคำถามอื่น” ก็คงส่งเอกสารไปในชั้นการสอบขององค์กรอิสระ
อีกเรื่องที่น่าสนใจในการเสนอข่าวสารปัจจุบันคือเรื่องดิจิทัลฟุตพรินต์ คือเมื่อพูดอะไรไว้ ก็มีพวกอัดเสียงทัน แคปทัน เอามาเย้ยหยันไยไพ ด้อยค่า อย่างกรณีเสี่ยนิด ก็โดนเรื่องไปจับมือพรรคสองลุง จนนางแบกต้องออกหน้ามาช่วยบ่อยๆ
ข้างก้าวไกล ก็โดนเรื่องดิจิทัล ฟุตพรินต์ อย่างเคยพูดเรื่องไม่สนับสนุนระบบอุปถัมภ์ แต่ก็ถูกแฉเรื่อง สส.บางคนเอาพ่อบ้าง เมียบ้าง เป็นคณะทำงาน จนต้องแก้เกี้ยวว่า “ถ้าจะสอบก็สอบมันทั้งสภาไปเลย” หรือฟุตพรินต์ที่อารมณ์แบบ “ลืมอ่านไลน์” คือกรณี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้ายอมรับว่าเดินทางไปพบ นายทักษิณ ชินวัตร แต่ น.ส.พรรณิการ์ วานิช หนึ่งในคณะก้าวหน้าเคยปฏิเสธบอกนายธนาธรอยู่เมืองไทยช่วงนั้น กลายเป็นที่ขำขันพอสมควร
อย่างไรก็ตาม ข่าวฟุตพรินต์ยังมีประโยชน์ในการจับโกหก แต่ข่าวตีปิงปองนี่ไม่รู้มีประโยชน์อะไร นอกจากสร้างความเกลียดชัง นี่ยังไม่พูดถึงข่าวที่พูดไม่ครบและข่าวเท็จ.
Related Stories
ตุลาคม 8, 2024