
ประมวลข่าวทั่วไทยประจำวันที่ 29 มิถุนายน 2566
การเมือง/มั่นคง
ส.ส.รายงานตัวต่อสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรแล้ว 498 คน จากทั้งหมด 499 คน
การเปิดให้ ส.ส.มารายงานตัว เป็นวันที่ 10 ต่อสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร โดยวันนี้ (29 มิ.ย.66) มี ส.ส.เข้ารายงานตัวเพิ่มเติมอีก 2 คนคือ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ และหม่อมหลวงชโยทิต กฤดากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ โดยขณะนี้มี ส.ส.เข้ารายงานตัวแล้วทั้งสิ้น 498 คน จากทั้งหมด 499 คน เหลือเพียงนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ยังไม่เข้ารายงานตัว
ยังไม่เห็นวาระนำกัญชากลับมาเป็นยาเสพติด หากจะเปลี่ยนต้องเสนอเรื่องต่อคณะกรรมการ ป.ป.ส ให้ความเห็นชอบ
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ในวันนี้ (29 มิ.ย.66) ว่ายังไม่เห็นวาระเรื่องการนำกัญชากลับมาเป็นยาเสพติด แต่ตามหลักการ หากจะนำกัญชากลับมาเป็นยาเสพติดต้องมีที่มาที่ไป เพราะคราวที่แล้วคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส. ได้ให้ความเห็นชอบตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ย้ำว่ารัฐมนตรีไม่มีอำนาจเปลี่ยน ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ ป.ป.ส. ต้องเสนอเรื่องขึ้นมาพิจารณาก่อน
แกนนำพรรคก้าวไกล เดินทางเข้าพรรคต่อเนื่อง คาดว่าจะร่วมหาข้อสรุปตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร
ที่ทำการพรรคก้าวไกล แกนนำพรรคเดินทางเข้ามาที่ทำการพรรคก้าวไกลต่อเนื่อง เช่น นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค ที่เดินทางมาถึงปฏิเสธตอบคำถามหรือให้สัมภาษณ์ใดๆ ตอบเพียงว่ามาทำงานเท่านั้น นอกจากนี้ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนางสาวพรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้าได้เดินทางเข้ามายังที่ทำการพรรคด้วยเช่นกัน ซึ่งคาดว่าจะมีการประชุมเพื่อหาข้อสรุปสำหรับตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรที่ยังไม่ได้ข้อยุติระหว่างพรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทย เนื่องจากการหารือของ 2 พรรค ถูกยกเลิกไปก่อนหน้านี้ อีกทั้งการประชุมของ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลที่ถูกเลื่อนออกไป เป็นวันที่ 2 กรกฎาคมนี้ ก่อนที่จะมีพิธีเปิดประชุมรัฐสภา ในวันที่ 3 กรกฎาคม 2566 และคาดว่าในวันที่ 4 กรกฎาคม 2566 จะมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อลงมติเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นลำดับต่อไป
นายกรัฐมนตรี ขอให้ได้รัฐบาลใหม่โดยเร็ว เพื่อไม่ให้ส่งผลเสียต่อประเทศ
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ส่วนตัวไม่ได้คาดหวังจะได้รัฐบาลใหม่เร็วหรือช้า เพราะเป็นเรื่องของกระบวนการทางการเมือง ตนเองก็ทำหน้าที่จนถึงวันที่ 3 กรกฎาคม ที่จะมีพิธีเปิดประชุมรัฐสภา หลังจากนั้นก็เป็นการคัดเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด ส่วนตัวก็ยินดีกับทุกคน ทุกพรรค และขอให้ช่วยกันทำให้บ้านเมืองสงบ เรียบร้อย ปลอดภัย ยึดมั่นในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นหลักการของประเทศ เพราะไม่อยากให้เกิดปัญหาและเกิดความล่าช้า เพราะจะเกิดผลเสีย ขอให้ปรึกษาหารือกันให้ดีและได้รัฐบาลที่ดีเข้ามา
พร้อมย้ำว่า จะรักษาการจนกว่าคณะรัฐมนตรีใหม่ เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณประมาณเดือนหน้า หากเลื่อนระยะเวลาออกอีก ก็ยังคงรักษาการอยู่ แต่ระหว่างนี้หากสถานการณ์เรียบร้อยก็ต้องไปตามกรอบเวลาที่กำหนด
นายกรัฐมนตรี ไม่ขอมองกรณีพรรครัฐบาลเดิมหรือพรรครวมไทยสร้างชาติ จะเสนอชื่อประธานสภาหรือไม่ เพราะแล้วแต่ทางพรรค และยังไม่ได้มีการพูดคุยกันถึงทิศทางการโหวตประธานรัฐสภา ขอให้เป็นเรื่องการเมืองว่ากันไป พร้อมกล่าวว่า ไม่มีการเสนอชื่อตนเองในการโหวตนายกรัฐมนตรี
เศรษฐกิจ/ท่องเที่ยว
ชำระค่าโดยสารรถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลืองได้ 3 ช่องทาง ก่อนเปิดให้บริการเต็มรูปแบบ 3 กรกฎาคมนี้
การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และบริษัท อีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด ผู้รับสัมปทานโครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลือง แจ้งว่า ตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม 2566 เป็นต้นไป รถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลือง พร้อมเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ ทั้ง 23 สถานี จากสถานีลาดพร้าวถึงสถานีสำโรง ตั้งแต่เวลา 06.00 น.-24.00 น. โดยมีอัตราค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 15 บาท สูงสุด 45 บาท
ผู้โดยสารสามารถชำระค่าโดยสารรถไฟฟ้า MRT สายสีเหลือง ได้ 3 วิธี ได้แก่ การชำระผ่านบัตรโดยสารประเภทเที่ยวเดียว (Single Journey Card) โดยออกบัตรได้ที่เครื่องจำหน่ายบัตรโดยสาร หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ ณ ห้องจำหน่ายบัตรโดยสาร ภายในสถานี ทั้งนี้ กรณีผู้ได้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ สามารถนำบัตรประชาชนติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อออกบัตรโดยสารประเภทเที่ยวเดียว ได้ที่ห้องจำหน่ายบัตรโดยสาร ชำระผ่านบัตรโดยสารประเภทเติมเงิน (บัตรแรบบิท) และชำระผ่าน บัตร EMV Contactless โดยใช้บัตรเครดิตวีซ่า (VISA) หรือมาสเตอร์การ์ด(Mastercard) ของธนาคารใดก็ได้ รวมถึงบัตรเดบิตของธนาคารกรุงไทย บัตรเดบิตของธนาคารยูโอบี และบัตรเดบิต Play Card (สมัครผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังค์) ที่มีสัญลักษณ์ Contactless Payment บนหน้าบัตรหรือหลังบัตร แตะเข้าและแตะออกระบบรถไฟฟ้าที่จุดให้บริการเครื่อง EDC บริเวณประตูพิเศษ (Swing Gate) ได้
นอกจากนี้ ยังมีแผนขยายจุดให้บริการเพิ่มเติม ให้ครบทุกประตูจัดเก็บค่าโดยสารอัตโนมัติ (AFC Gate) ในลำดับถัดไป ซึ่งผู้โดยสารที่เดินทางเชื่อมต่อระหว่างระบบรถไฟฟ้า MRT สายสีเหลือง – MRT สายสีน้ำเงิน (สายเฉลิมรัชมงคล) ที่สถานีลาดพร้าว และชำระค่าโดยสารด้วยบัตร EMV Contactless ใบเดียวกัน จะได้รับส่วนลดการเปลี่ยนถ่ายระบบ หากเดินทางเชื่อมต่อภายในระยะเวลา 30 นาที พร้อมกันนี้ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) ได้เตรียมออกบูธบริการให้คำแนะนำเกี่ยวกับบัตร EMV Contactless และรับสมัครบัตรเดบิต Krungthai TranXit Debit Card และบัตรเดบิต UOB TMRW ที่สถานีลาดพร้าว (YL01) ในวันที่ 3 กรกฎาคม 2566 นี้ ผู้โดยสารยังสามารถนำรถยนต์มาจอดและเดินทางต่อด้วยรถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลือง ได้ที่อาคารจอดรถสถานีลาดพร้าว และอาคารจอดรถสถานีศรีเอี่ยม โดยคิดอัตราค่าจอดรถสำหรับผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า อัตราค่าจอดรถยนต์ 2 ชั่วโมง 15 บาท (กรณีไม่ใช้บริการรถไฟฟ้า ชั่วโมงละ 50 บาท) และอาคารจอดรถสถานีศรีเอี่ยม คิดอัตราค่าจอดรถยนต์ ชั่วโมงละ 5 บาท (กรณีไม่ใช้บริการรถไฟฟ้า ชั่วโมงละ 20 บาท)
ยกระดับการบริการด้านช่าง พัฒนา “งานทดสอบวัสดุ” รองรับการให้ประชาชนอย่างมีมาตรฐาน
นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง เปิดเผยว่า ที่ผ่านมากรมโยธาฯ เปิดให้บริการงานวิเคราะห์วิจัยและทดสอบวัสดุ ให้แก่หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนมาอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2554 จัดตั้งเป็น “ศูนย์ทดสอบวัสดุ” ทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค จำนวน 14 ศูนย์ สามารถให้บริการทดสอบวัสดุก่อสร้างได้ถึง 24 การทดสอบ และจัดตั้ง “หน่วยทดสอบวัสดุ” อีก 63 จังหวัด ให้บริการทดสอบวัสดุก่อสร้าง 11 การทดสอบ ต่อมาในปี 2564 กรมโยธาฯ ได้ยกระดับหน่วยทดสอบวัสดุ ให้เป็นศูนย์ทดสอบวัสดุทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการทดสอบวัสดุเพิ่มเติม โดยสามารถรองรับภารกิจงานทดสอบที่เพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกัน ยังจัดหลักสูตรอบรมบุคลากรด้านช่าง เพื่อเพิ่มศักยภาพบุคลากรที่ปฏิบัติหน้าที่ให้บริการงานวิเคราะห์ วิจัย และทดสอบวัสดุ ให้มีความรู้ ความชำนาญ สามารถปฏิบัติงานทดสอบวัสดุและออกใบรายงานผลการทดสอบได้อย่างมีมาตรฐานและสอดคล้องกันทั้งประเทศ รวมทั้งมีแผนในการพัฒนาระบบการเข้ารับบริการทดสอบวัสดุที่สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้นในอนาคต เพื่อให้ทันต่อความต้องการของผู้เข้ารับบริการต่อไป
สำหรับประเภทของการทดสอบของศูนย์ทดสอบวัสดุ เช่น การทดสอบแรงอัดของคอนกรีต การทดสอบแรงดึงของเหล็ก การทดสอบคุณสมบัติของดิน ทราย ลูกรัง หินคลุก หินใหญ่ การทดสอบความแน่นของวัสดุในสนาม การทดสอบลวดเหล็กเคลือบสังกะสี การทดสอบคุณสมบัติของแผ่นใยสังเคราะห์ การเจาะสำรวจชั้นดิน การทดสอบความสมบูรณ์ของเสาเข็ม เป็นต้นโดยหน่วยงานต่างๆ และประชาชนทั่วไป สามารถขอรับบริการได้ที่ ศูนย์ทดสอบวัสดุต่างๆ หรือสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดทั่วประเทศ
เกษตรกรรม/สิ่งแวดล้อม
กรมอุตุนิยมวิทยา เฝ้าระวังการติดตามการเกิดแผ่นดินไหวในพื้นที่ตำบลไผ่ล้อมจังหวัดพิษณุโลกต่อเนื่อง
นางสาวชมภารี ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา แถลงข่าวการเกิดแผ่นดินไหวมีศูนย์กลางอยู่ที่ตำบลไผ่ล้อม อำเภอบางกระทุ่ม จังหวัดพิษณุโลก ว่า กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว ได้ตรวจพบการเกิดแผ่นดินไหวเมื่อเวลา 00.17 น. ของวันที่ 29 มิถุนายน 2566 ขนาด 4.5 ความลึก 5 กิโลเมตร รู้สึกสั่นไหวบริเวณจังหวัดพิษณุโลก พิจิตร เลย นครสวรรค์ กำแพงเพชร ได้มีการแจ้งเตือนไปยังจังหวัด หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนภายในระยะเวลา 17 นาที
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผู้ว่าราชการจังหวัดที่ได้รับผลกระทบได้สั่งการให้มีการตั้งวอลรูมติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ ขณะที่กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหวจะส่งข้อมูลการตรวจวัดไปยังจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกรมชลประทาน หน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่น การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นไปตามหลักมาตรฐานการแจ้งเตือนภัยแผ่นดินไหว รวมถึงการแจ้งเตือนภัยไปยังสื่อมวลชน ผ่านช่องทางต่างๆ แบบเรียลไทม์ ตลอดจนช่องทางโซเชียลมีเดีย สำหรับสาเหตุของการเกิดแผ่นดินไหวนั้น ได้ประสานงานกับกรมทรัพยากรธรณี ซึ่งพบว่ารอยเลื่อนดังกล่าวที่ไม่ได้อยู่การสำรวจและยังไม่เคยปรากฎมาก่อนพาดผ่านทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ และตะวันออกเฉียงเหนือคู่ขนานกับเทือกเขาเพชรบูรณ์ เบื้องต้นยังไม่ได้รับรายงานว่ามีการเกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมาแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม จะมีการจับเคลื่อนสัญญาณแรงสั่นไหวอย่างต่อเนื่อง สำหรับแรงสั่นสะเทือนดังกล่าวยังไม่สร้างความเสียหาย เนื่องจากจุดศูนย์กลางไม่อยู่ในเขตเมือง โดยได้รับการแจ้งจากประชาชนประมาณ 144 ราย ที่แจ้งว่าได้รับการสั่น สั่นสะเทือนบ้านสั่น แต่ยังไม่มีการแจ้งพบว่าพบรอยร้าวของตึกหรือความเสียหายจากสิ่งก่อสร้าง ทั้งนี้ได้แจ้งเตือนให้ประชาชนเก็บของที่อยู่ในที่สูงป้องกันสิ่งของหล่นทับหากเกิดกรณีอาฟเตอร์ชอกในระยะนี้ไว้ด้วย
สังคม
หลักเกณฑ์ขั้นตอนการขอรับเงินกรณีชราภาพของผู้ประกันตนมาตรา 39
นางนิยดา เสนีย์มโนมัย โฆษกสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยว่า ผู้ประกันตนมาตรา 39 ที่ส่งเงินสมทบเดือนละ 432 บาท หากจะขอรับเงินกรณีชราภาพ ผู้ประกันตนจะต้องอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ และสิ้นสภาพการเป็นผู้ประกันตน โดยสิทธิจะเกิดก็ต่อเมื่อเข้าเงื่อนไขดังกล่าวทั้งสองข้อ หมายความว่าต้องอายุครบ 55 ปี และต้องลาออกจากการเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 แต่หากอายุครบ 55 ปี ไม่ลาออกจะยังไม่สิ้นสภาพการเป็นผู้ประกันตน โดยสามารถส่งเงินสมทบต่อไปได้โดยไม่จำกัดอายุ เพื่อรับสิทธิประโยชน์ทั้ง 6 กรณีต่อเนื่อง โดยเฉพาะสิทธิประกันสังคมในการรักษาพยาบาลและอัตราเงินบำนาญจะเพิ่มขึ้นตามระยะเวลาการส่งเงินสมทบด้วย ซึ่งหากส่งเงินสมทบไม่ครบ 15 ปีจะได้รับเป็นเงินบำเหน็จหรือเงินก้อน แต่หากการส่งเงินสมทบครบ 15 ปีแรก จะได้รับบำนาญพื้นฐาน 20% ส่วนที่ส่งเกิน 15 ปี บำนาญจะเพิ่มขึ้นปีละ 1.5% โดยมีฐานคำนวณบำนาญอยู่ที่ 4,800 บาท
หากผู้ประกันตนมาตรา 39 จะขอรับเงินบำเหน็จบำนาญชราภาพ สามารถติดต่อได้ที่ สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา ทั่วประเทศ ภายใน 2 ปี นับแต่วันที่มีสิทธิรับเงินกรณีชราภาพ แต่หากเกิน 2 ปีไปแล้วมายื่นในภายหลัง จะต้องยื่นคำแจ้งเหตุที่ยื่นเกินกำหนด
โฆษกสำนักงานประกันสังคม กล่าวเพิ่มเติมว่า หากผู้ประกันตนมาตรา 39 ที่ขอรับเงินกรณีชราภาพไปแล้ว จะไม่สามารถใช้สิทธิประกันสังคมได้อีก เมื่อลาออกกฎหมายจะให้ความคุ้มครองต่อไปอีกเพียง 6 เดือนนับจากวันที่ลาออกจากมาตรา 39 สำหรับผู้ประกันตนที่จะขอรับเงินบำนาญชราภาพรายเดือนไปตลอดชีวิต แนะนำให้แจ้งบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขบัตรประชาชนเพื่อขอรับเงินรายเดือน ซึ่งจะทำให้ผู้ประกันตนไม่เสียค่าธรรมเนียมการโอนเงินในแต่ละเดือน หากมีข้อสงสัยสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนประกันสังคม โทร.1506 กด 1 ตลอด 24 ชั่วโมง
บุหรี่ไฟฟ้า ไม่สูบ ไม่เสี่ยง แม้ถูกเพื่อนชักชวน สูบบุหรี่ไฟฟ้าบุหรี่มวนส่งผลกระทบต่อสุขภาพ
นายแพทย์สุระ วิเศษศักดิ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กล่าวว่า กองสุขศึกษา กรม สบส. ร่วมกับภาคีเครือข่ายระดับประเทศและระดับพื้นที่ทำการสำรวจ “พฤติกรรมการสูบบุหรี่ไฟฟ้าของเยาวชนไทย” ระหว่างวันที่ 25 เมษายน – 6 มิถุนายน 2566 มีผู้ตอบแบบสำรวจฯ 61,688 คน พบว่าในภาพรวมของประเทศเยาวชนสูบบุหรี่ไฟฟ้า ร้อยละ 9.1 สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการถูกชักชวนให้สูบบุหรี่ไฟฟ้าจากคนรอบข้าง โดยส่วนใหญ่ร้อยละ 92.2 ถูกชักชวนจากเพื่อน รองลงมาถูกชักชวนจากญาติ ร้อยละ 3.2 และถูกชักชวนจากคนในครอบครัว ร้อยละ 1.6 นอกจากนี้ ยังพบว่าเยาวชนที่สูบบุหรี่มวนจะสูบบุหรี่ไฟฟ้าร่วมด้วยสูงถึงร้อยละ 43.9 ซึ่งจะทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพเพิ่มขึ้น
ด้านนายแพทย์สามารถ ถิระศักดิ์ รองอธิบดีกรม สบส. กล่าวว่า กรม สบส. สนับสนุนให้ยุวอาสาสมัครสาธารณสุข แกนนำสุขภาพร่วมรณรงค์และให้ความรู้กับคนในพื้นที่เกี่ยวกับโทษของการสูบบุหรี่ไฟฟ้า โดยรณรงค์สร้างกระแสในประเด็น บุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า ไม่สูบ ไม่เสี่ยง ผ่านเครือข่ายภาครัฐและเอกชน สื่อมวลชน ในทุกมิติ ซึ่งเป็นพลังที่สำคัญทำให้เยาวชนได้ตระหนักและเห็นถึงพิษภัยของบุหรี่มวน และบุหรี่ไฟฟ้า ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเยาวชนได้
ข้อมูลข่าวและที่มา
ผู้สื่อข่าว : ธนพิชฌน์ แก้วกา
ผู้เรียบเรียง : ธนพิชฌน์ แก้วกา
แหล่งที่มา : หน่วยงานสำนักข่าว
{{item.title}}
{{item.date}}
90-91 ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. 10310
โทรศัพท์ 02-248-8600, Fax 02-369-2579
nnt.thainews © 2021 All rights reserved.