Online
03 ก.ค. 2566
|
เพื่อไทยไม่เหมือนเดิม ทักษิณ กุมขมับ อยากกลับบ้าน แต่ศึกในพรรคคุกรุ่น คนรุ่นใหม่งัดคนรุ่นเก่า เศรษฐา อยากนั่งนายกฯ ถ้า พิธา ถูก สว.สอยร่วง
ด้อมส้มขู่เพื่อไทยสูญพันธุ์ หากทิ้งก้าวไกลผสมพันธุ์ข้ามขั้ว สส.บ้านใหญ่หลายซุ้มคิดต่าง ไม่อยากให้ก้าวไกลขี่คอ ขอไปตายดาบหน้า
เมื่อ สว.สายความมั่นคง ประกาศชัด มีก้าวไกล ไม่มี สว. ดังนั้น อนาคตของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ก็คงจบเส้นทางสู่นายกรัฐมนตรี ที่ด่าน สว. ซึ่งแกนนำพรรคเพื่อไทย ก็อ่านสถานการณ์ไว้ล่วงหน้า จึงเตรียมแผนเสนอชื่อ เศรษฐา ทวีสิน เข้าประกวดในก๊อกที่ 2
มีรายงานข่าวว่า ทักษิณ ชินวัตร อยากให้มีการโหวตเลือกนายกฯ จบก่อนวันเดินทางกลับบ้านคือ ก่อนวันเกิด 26 ก.ค. 2566 แต่ดูเหมือนว่า แผนนายกฯ ก๊อก 2 อาจไม่ราบรื่น เมื่อมี สส.เพื่อไทยกลุ่มหนึ่ง เกิดจะแหกโผไปหนุนนายกฯ จากอีกขั้วหนึ่ง
ว่ากันว่า จุดเปลี่ยนการเมืองไทยอาจไม่ต้องรอถึงวันโหวตนายกฯ เพราะวันที่ 4 ก.ค. 2566 ศึกชิงประธานสภาผู้แทนราษฎร
จตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ประเทศไทยต้องมาก่อน ตอนอ่านให้ขาด ระบุว่า พรรคเพื่อไทย อาจจะเสนอชื่อประธานสภา เข้าแข่งขันกับก้าวไกล อาจเสนอชูศักดิ์ ศิรินิล หรืออาจเป็นคนอื่นก็ได้ แต่ในวันที่ 4 ก.ค.นี้ พรรคเล็กในขั้วรัฐบาลเดิม จะเสนอ สุชาติ ตันเจริญ เข้าแข่งขันร่วมด้วย
ล่าสุด มดดำ คชาภา ตันเจริญ ลูกชาย สุชาติ ตันเจริญ ออกมาส่งสัญญาณเหมือนกล่อมพ่อให้ถอนตัว เพื่อรักษาวิถีทางประชาธิปไตยที่สวยงาม
ผ่าตัดเพื่อไทย
ถ้าจำกันได้ กรณีที่ทีมเจรจาพรรคเพื่อไทย ไปเสนอยกเก้าอี้ประธานสภาให้พรรคก้าวไกล และเพื่อไทยจะได้ 2 เก้าอี้รองประธาน นัยว่ามีแผนข้ามช็อตไปถึงการเลือกนายกฯ ก๊อกที่ 2 ถ้าพิธา ตกสวรรค์ตามที่ สว.ประกาศขวางสุดกำลัง
วงในเพื่อไทย มีการพูดคุยอย่างจริงจัง กรณี พิธา ฝ่าด่าน สว.ไม่ได้ จะโหวตกี่ครั้งก็ไม่ผ่าน ทางแกนนำก้าวไกล ก็จะให้เพื่อไทยเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล โดยพรรคสีส้มก็ยังร่วมรัฐบาลต่อไป
ชื่อ เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ถูกกล่าวขวัญกันมากขึ้น พร้อมกับมีภาพเศรษฐา ออกไปพบกับกลุ่มเกษตรกร และนักธุรกิจท้องถิ่นในภาคเหนือ และภาคอีสาน เหมือนแสดงความพร้อมที่จะเข้ามาบริหารประเทศ
อีกด้านหนึ่ง เศรษฐา ทวีสิน ในฐานะประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ได้เข้ามารับภารกิจรีแบรนด์เพื่อไทย เตรียมตัวสู้ศึกเลือกตั้งในอีก 4 ปีข้างหน้า
ในสายตาของเศรษฐา พรรคเพื่อไทยมีครบสมบูรณ์แบบทุกอย่าง มีวิธีการจัดการเหมือนบริษัทใหญ่ๆ ทั่วไป หากไม่ทรานส์ฟอร์ม ครั้งถัดไปอาจจะได้แค่ 100 หรือต่ำกว่านั้นอีก
คำว่า ทรานส์ฟอร์มเพื่อไทย ไม่ใช่แค่รีแบรนด์พรรค หากแต่เป็นเปลี่ยนแปลงทั้งคน และวัฒนธรรมองค์กร ตรงจุดนี้เองที่ทำให้ สส.หลายพรรษาที่คุ้นเคยกับการเมืองเก่า รับไม่ได้
เพื่อไทย-การเมืองเก่า
ความต่างของพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล ที่เห็นชัดที่สุดคือ พรรคหนึ่งคล้ายบริษัทใหญ่ ที่มีนายห้างเป็นเจ้าของ แต่อีกพรรคหนึ่ง เกิดมาจากนักการเมืองรุ่นใหม่ ที่มีอุดมการณ์ต้องการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประเทศ
สส.เพื่อไทยส่วนใหญ่มาจากนักธุรกิจการเมือง ทำอะไรก็นึกถึงกำไรขาดทุน ไม่พูดเรื่อง อุดมการณ์ เพราะมันกินไม่ได้
ที่สำคัญ ทักษิณ ประกาศจะเดินทางกลับเมืองไทยในเดือน ก.ค.นี้ และเห็นช่องทางที่เพื่อไทยจะได้นายกฯ เพราะพิธานั้น ถูกสอยไปไม่ถึงนายกรัฐมนตรีแน่
การคว้าเก้าอี้ประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ จึงมีความจำเป็น เพื่อปูทางไปสู่ตำแหน่งนายก รัฐมนตรี แต่พรรคอันดับ 1 ก็รู้ตัวว่า ไม่ได้นายกฯ แต่ขอเก้าอี้ประธานสภาปลอบใจ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวที่น่าสนใจ
เพิ่ม คมชัดลึก ออนไลน์
ลงในหน้าจอหลักของคุณ