
ข่าว
วิดีโอ
หนังสือพิมพ์
ไทยรัฐทีวี
ไลฟ์สไตล์
กีฬา
บันเทิง
ดวง
หวย
นิยาย
โปรโมชั่น
MONEY
MIRROR
THAIRATH +
LIVE
เยี่ยม “ทักษิณ” วันแรก “โอ๊ค-เอม-อุ๊งอิ๊ง” นำครอบครัว และทนายรวม 10 คนเข้าพบ ส่วนบรรยากาศด้านหน้า รพ.ตร.วุ่น ครอบครัวรัตนพันธุ์ที่มีคดีความฟ้องร้องกับบริษัทเอสซี แอสเสท-ตระกูลชินวัตร แจกใบปลิวเรียกร้องความเป็นธรรมพร้อมเชิญชวนคนไทยร่วมคัดค้านการขออภัยโทษ น.ช.ทักษิณ ทำเอา “อุ๊งอิ๊ง” ที่นัดนักข่าวจะให้สัมภาษณ์อาการพ่อต้องฉากหนีเดินขึ้นรถกลับทันที ขณะที่แอดมินเพจ “ดร.ทักษิณ ชินวัตรแฟนคลับ” ฝากดอกไม้ให้กำลังใจ ยอมรับ “โทนี่” กังวลเรื่องคะแนนนิยมที่ตกฮวบหลังตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว ด้านรอง หน.พรรคไทยภักดียื่นหนังสือเสนอ อสส.เร่งรัดคดี ทบ.แจ้งความดำเนินคดี “ทักษิณ” หมิ่นเบื้องสูง และอดีต อสส.เห็นควรสั่งฟ้องตั้งแต่ปี 58
ภายหลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางกลับเข้าประเทศไทยเมื่อวันที่ 22 ส.ค. และถูกนำตัวเข้ากระบวนการกฎหมายส่งตัวขึ้นศาลฎีกา บังคับโทษ 3 คดี นับโทษรวมจำคุก 8 ปี และถูกคุมตัวเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯทันที แต่ในคืนเดียวกันนายทักษิณถูกนำตัวส่ง รพ.ตำรวจ เพราะมีอาการแน่นหน้าอกกะทันหัน ค่าออกซิเจนต่ำและค่าความดันโลหิตสูงมาก ส่วนการเข้าเยี่ยมญาติสามารถแจ้งรายชื่อกับกรมราชทัณฑ์เพื่อเข้าเยี่ยมได้ในวันที่ 28 ส.ค.หลังพ้นการกักโรค 5 วัน ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
…
ล่าสุด เมื่อช่วงเช้าวันที่ 28 ส.ค.ที่หน้าอาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา โรงพยาบาลตำรวจ เป็นวันแรกที่กรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ครอบครัวและคนใกล้ชิดเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีสื่อมวลชนจำนวนมากปักหลักรายงานข่าวตั้งแต่ช่วงเช้า สำหรับระเบียบการเข้าเยี่ยม กรมราชทัณฑ์แจ้งว่าจะอนุญาตให้ญาติเยี่ยมไม่เกิน 10 คน ตามรายชื่อที่ยื่นไปให้เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ก่อนหน้านี้ และเข้าเยี่ยมได้ 08.30-15.00 น. สําหรับญาติและบุคคลใกล้ชิดที่แจ้งรายชื่อเพื่อเข้าเยี่ยมนายทักษิณวันแรกคือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี น.ส.แพทองธาร บุตรสาว น.ส.แพทองธาร น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือ เอม กรรมการและเลขานุการมูลนิธิไทยคม นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชัน สามี น.ส.พินทองทา นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายคนโตนายทักษิณ น.ส.ณัฐฐิญา ปวงคำ ภรรยานายพานทองแท้ และทนายความอีก 3 ราย
จากนั้นเวลา 11.30 น. นายสมเกียรติ ตันติธนไพศาล หรือพ็อกเก็ต แอดมินเฟซบุ๊กเพจ “ดร.ทักษิณ ชินวัตรแฟนคลับ” ที่มีผู้ติดตาม 2.9 แสนคน และเป็นผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อันดับที่ 51 เดินทางมาที่ รพ.ตร. โดยนายสมเกียรติกล่าวว่า ตั้งใจจะมาขอเข้าเยี่ยมอดีตนายกฯ แต่เจ้าหน้าที่แจ้งว่าต้องไปลงรายชื่อที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯก่อน จึงไม่ได้ขึ้นไปเยี่ยม แต่ได้ฝากกระเช้าดอกไม้กับพยาบาลเพื่อขอให้นำส่งไปให้ภายหลัง ทั้งนี้ตนเป็นเอฟซีนายทักษิณมาตั้งแต่ปี 49 จนมีการตั้งกลุ่มแฟนคลับทักษิณขึ้นเพื่อรวบรวมคนที่มีความรักศรัทธาในผลงานท่านมาอยู่ร่วมกันสื่อสารให้กำลังใจท่าน ระหว่างต้องหลบลี้ไปพำนักในต่างแดน ทราบว่าท่านกลับไทยพักรักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ อยากมาเยี่ยมอยากบอกว่าขอให้ท่านรักษาตัวให้ดีๆ
แอดมินเพจเอฟซีทักษิณกล่าวด้วยว่า ยอมรับการที่พรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลโดยที่ไม่มีพรรคก้าวไกลร่วมด้วย ทำให้คะแนนนิยมของแฟนคลับทักษิณลดฮวบลงอย่างเห็นได้ชัด ยอดไลค์ ยอดแชร์ ตกไปจำนวนมาก บางรายหลังไมค์มาหาบอกจะขอเลิกติดตามเพจ เนื่องจากมองว่าท่านอุดมการณ์เปลี่ยนไป ทั้งยังโดนวาทกรรมที่ว่าเพื่อไทยการละครถล่มซ้ำ การจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้มีต้นทุนที่ต้องสูญเสียไปจำนวนมาก ครั้งหนึ่งก่อนจะกลับไทยได้คุยกับท่านทักษิณ ท่านพูดว่าเป็นห่วงเรื่องนี้เช่นกัน ส่วนเรื่องอาการป่วย บางคนอาจจะมองว่าไม่ได้ป่วยจริง แต่ตนมั่นใจว่าท่านป่วย และกรมราชทัณฑ์อาจจะกังวลในเรื่องของการดูแลจึงต้องส่งมาที่โรงพยาบาลตำรวจ ส่วนการที่มีนักการเมืองกลุ่มหนึ่งออกมาคัดค้านการอภัยโทษมองเป็นเรื่องของความแค้นส่วนตัวทางการเมือง ไม่เห็นด้วยที่จะไปก้าวล่วงพระราชวินิจฉัย นำสถาบันมาเป็นผลประโยชน์ทางการเมือง
ต่อมาเวลา 12.20 น. ครอบครัวรัตนพันธุ์ นำโดยนายศรายุทธ รัตนพันธุ์ นางวณิชา รัตนพันธุ์ มารดา เดินทางมาที่หน้าอาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา ชูป้ายเรียกร้องความเป็นธรรมจากบริษัทเอสซี แอสเสท-ตระกูลชินวัตร พร้อมแจกใบปลิวเชิญชวนคนไทยร่วมคัดค้านการขออภัยโทษ นช.ทักษิณ ชินวัตร โดยให้ร่วมกันรณรงค์ออนไลน์ด้วยการสแกน QR code ผ่านระบบออนไลน์
นายศรายุทธ รัตนพันธุ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาตระกูลรัตนพันธุ์ มีคดีที่ฟ้องร้องต่อสู้ทางแพ่งกับตระกูลชินวัตรมายาวนาน คดีอยู่ในชั้นศาลทราบตื้นลึกหนาบางของตระกูลชินวัตรดี ครอบครัวประกาศแล้วว่าถ้าแพ้จะไม่เอาเงินตระกูลชินวัตรแม้แต่บาทเดียว แต่ที่มาเพราะทราบว่า น.ช.ทักษิณอยู่ตึกนี้ การกลับประเทศไทยของ น.ช.ทักษิณนั้นไม่ยอมติดคุกในเรือนจำทั้งที่มีคำพิพากษาสิ้นสุด มาแค่คืนเดียวก็มานอนโรงพยาบาล ขอให้ตัวแทนกรมราชทัณฑ์มารอรับหนังสือคัดค้านการอภัยโทษ น.ช.ทักษิณ กับครอบครัว ขณะนี้ได้ยื่นถวายฎีกาไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งให้รีบนำ น.ช.ทักษิณกลับเข้าคุกเพื่อความเสมอภาคเท่าเทียมกับนักโทษคนอื่น อย่าให้คนตระกูลชินวัตรมาอยู่เหนือกฎหมาย
หลังชี้แจงต่อสื่อมวลชนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ครอบครัวรัตนพันธ์ุยังไม่เดินทางกลับ เนื่องจากมีการแจ้งต่อผู้สื่อข่าวที่มาปักหลักเฝ้ารอหน้าอาคารว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวคนเล็กของนายทักษิณ มาเยี่ยมบิดา ที่ห้อง 1401 ตั้งแต่เวลา 12.50 น. และจะลงมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในเวลาประมาณ 13.30 น.
กระทั่งเวลาประมาณ 13.45 น.หลังใช้เวลาเข้าเยี่ยมนายทักษิณประมาณ 40 นาที น.ส.แพทองธารได้ลงมาขึ้นรถเดินทางกลับทันทีโดยไม่มีการแถลงต่อผู้สื่อข่าวตามที่ได้นัดหมาย เมื่อสอบถามอาการนายทักษิณ น.ส.แพทองธาร แค่ยกมือไหว้แล้วพยักหน้าเดินขึ้นรถตู้กลับโดยกล่าวสั้นๆว่าจะแถลงข่าวเรื่องการเข้าเยี่ยมอาการป่วยของบิดาที่พรรคเพื่อไทย ในวันที่ 29 ส.ค.ขณะที่ผู้สื่อข่าวต่างบ่นอุบว่าถูกเท ทั้งที่นัดกันไว้
มีรายงานว่าเหตุผลที่ น.ส.แพทองธารงดแถลงข่าวกับสื่อ คาดว่าเป็นเพราะยังคงมีสมาชิกตระกูลรัตนพันธุ์ ปักหลักรอประท้วง น.ส.แพทองธารอยู่ที่หน้าอาคาร เมื่อ น.ส.แพทองธารเดินทางกลับได้มีตัวแทนของโรงพยาบาลตำรวจ มารับหนังสือของครอบครัวรัตนพันธุ์แทน
วันเดียวกัน ที่สำนักงานอัยการสูงสุด นายทศพล พรหมเกตุ รองหัวหน้าพรรคไทยภักดี เข้ายื่นหนังสือถึงอัยการสูงสุดเพื่อขอให้เร่งรัดคดี ม.112 ที่กองทัพบกร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีอาญานายทักษิณ ชินวัตร ไว้เมื่อปี 58 นายทศพลเปิดเผยว่า นายทักษิณเคยให้สัมภาษณ์นิตยสารไทม์ที่ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 9 พ.ย.52 มีเนื้อหาหมิ่นสถาบันฯ ต่อมา พ.ค.58 กองทัพบกได้แจ้งความดำเนินคดีนายทักษิณกับพนักงานสอบสวน บก.ปอท. กรณีเผยแพร่คำสัมภาษณ์นายทักษิณ และได้ออกหมายจับ แต่คดีนี้เป็นการกระทำความผิดในต่างประเทศ อำนาจการสอบสวนดำเนินคดีเป็นของอัยการสูงสุดตาม ป.วิอาญามาตรา 20
ต่อมาวันที่ 6 ต.ค.60 อัยการสูงสุดมีความเห็นสั่งฟ้องนายทักษิณ 2 ข้อหา คือความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์นำข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ แต่ขณะนั้นนายทักษิณหลบหนีอยู่ที่ต่างประเทศไม่สามารถนำตัวส่งฟ้องศาลได้ แต่ขณะนี้เป็นที่ประจักษ์ชัดเจนแล้วว่านายทักษิณเดินทางกลับประเทศไทยแล้ว ตัวแทนพรรคไทยภักดีมายื่นหนังสือเพื่อขอให้สำนักงานอัยการสูงสุดในฐานะโจทก์ เร่งรัดนำตัวนายทักษิณส่งฟ้องศาลตามขั้นตอนกระบวนการยุติธรรม
นายทศพลยังฝากถึงนายทักษิณว่า ยังมีโอกาสเป็นรัฐบุรุษเหมือนกับนายเนลสัน แมนเดลา อดีตประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ อยากให้มีพฤติกรรมทำตัวให้สมเกียรติยศกับที่มวลชนคนเสื้อแดงเคารพศรัทธา โดยการยอมถูกจำคุก 8 ปี โดยไม่ขอพระ ราชทานอภัยโทษ จะได้ไม่ต้องสร้างภาระให้กับหลายภาคส่วนที่เกี่ยวข้องประวัติศาสตร์จะจารึกจดจำนายทักษิณในฐานะเป็นรัฐบุรุษต่อไป หลังยื่นหนังสือเจ้าหน้าที่ของสำนักงานอัยการสูงสุดได้ลงเลขรับและดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
…
…