
ประมวลข่าวทั่วไทยประจำวันที่ 19 มิถุนายน 2566
การเมือง/มั่นคง
กกต.ประกาศรับรองการเลือกตั้ง ส.ส. อย่างเป็นทางการแล้ว ทั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง และแบบบัญชีรายชื่อ
นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. กล่าวว่า กกต. ได้เสนอผลการเลือกตั้ง ส.ส. ทั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งและแบบบัญชีรายชื่อ ของพรรคการเมือง 67 พรรค พร้อมผลการพิจารณาว่าการเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรมหรือไม่ ทั้งตรวจสอบรายงานคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งทั้ง 77 จังหวัด และผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง และเรื่องร้องคัดค้านของผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัด และกรุงเทพฯ รวมทั้งศึกษาแหล่งข้อมูลคัดค้านการเลือกตั้ง โดยคณะกรรมการ กกต. พิจารณาแล้วให้ประกาศผลการเลือกตั้ง แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง 400 เขต แบบบัญชีรายชื่อ 100 คน
โดย กกต.ยังมีอำนาจพิจารณาสืบสวนไต่สวนได้ หากมีหลักฐานว่าผู้ใดทุจริตการเลือกตั้ง ให้ กกต. ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งของผู้นั้นได้ ทั้งนี้ให้ผู้ได้รับการประกาศได้เป็น ส.ส. รับหนังสือรับรอง 20-24 มิถุนายนนี้ 08.30 น.-16.30 น. ไม่เว้นวันหยุดราชการ
ส่วนพรรคการเมืองที่ได้รับการรับรองผลการเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ มี 17 พรรคการเมือง ประกอบด้วย พรรคก้าวไกล 39 คน เพื่อไทย 29 รวมไทยสร้างชาติ 13 คน ประชาธิปัตย์ 3 คน พรรคภูมิใจไทย 3 คน พรรคประชาชาติ 2 คน พรรคครูไทยเพื่อประชาชน 1 คน พรรคชาติไทยพัฒนา 1 คน พรรคชาติพัฒนากล้า 1 คน พรรคท้องที่ไทย 1 คน พรรคไทยสร้างไทย 1 คน พรรคประชาธิปไตยใหม่ 1 คน พรรคเป็นธรรม 1 คน พรรคพลังประชารัฐ 1 คน พรรคพลังสังคมใหม่ 1 คน พรรคเสรีรวมไทย 1 คน พรรคใหม่ 1 คน รวม 100 คน ทั้งนี้ เรื่องร้องเรียนอยู่ระหว่างการพิจารณา โดยจะต้องให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี นับแต่วันประกาศผลการเลือกตั้ง
เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวว่า การรับรอง ส.ส. ไปก่อน 400 เขต เนื่องจากกระบวนการพิจารณาเรื่องสืบสวน อาจแล้วเสร็จไม่ทัน 60 วัน แต่จะต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายในการแก้ต่าง อีกทั้งยังมีการอ้างหลักฐานและสำนวนเป็นจำนวนมาก จึงประกาศรับรองไปก่อน โดยไม่ตัดอำนาจ กกต. ที่จะพิจารณาตามมาตรา 138
นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธตอบคำถามข่าวฉาววงการตำรวจไทย
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ปฎิเสธตอบคำถามเกี่ยวกับข่าวฉาววงการตำรวจไทย ทั้งเรื่องตบทรัพย์แก๊งค์พนันออนไลน์ 140 ล้านบาท รวมถึงการแต่งตั้งโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรม โดยกล่าวเพียงว่า ได้สั่งการไปแล้วให้ทำตามหน้าที่ ตามระเบียบ ตามกฎหมาย
ส่วนกรณี “น้องหยก” เยาวชนนักเคลื่อนไหวทางการเมือง อายุ 15 ปี ที่มีปัญหาไม่ได้รับสถานะนักเรียน เป็นเรื่องของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องแก้ไข โดยต้องแก้ไขเป็นกรณีไป แลัขออย่าไปสร้างความปั่นป่วน
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ขณะนี้กำลังใจยังดีอยู่ ขอให้สื่อช่วยกัน เพราะสถานการณ์การเมืองจะเรียบร้อยหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับสื่อ พร้อมกล่าวย้ำว่า ไม่ทราบที่มีการมองว่า หากโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีไม่ได้ จะเกิดความวุ่นวายขึ้น โดยก่อนเดินทางกลับมีประชาชนส่วนหนึ่งสวมเสื้อสีเหลือง นำดอกไม้มารอต้อนรับพลเอก ประยุทธ์ บริเวณด้านหน้าสถานีรถไฟฟ้าลาดพร้าว ซึ่งพลเอก ประยุทธ์ ได้หยุดรับดอกไม้และร่วมถ่ายภาพกับประชาชนก่อนเดินทางกลับ
เศรษฐกิจ/ท่องเที่ยว
เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวต่อเนื่อง ศุลกากรแหลมฉบังเก็บภาษีครึ่งปีทะลุเป้ากว่า 172,028 ล้านบาท
นายประสิทธิ์ ดีจงเจริญ ผู้อำนวยการส่วนควบคุมทางศุลกากร สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง กรมศุลกากร เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง แถลงผลประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2566 คาดว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 3.6 ฟื้นตัวต่อเนื่องจากปี 2565 ที่ขยายตัวที่ร้อยละ 2.6 ต่อปี โดยได้รับแรงสนับสนุนจากการบริโภคที่ปรับตัวดีขึ้นและภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องนั้น
นายประสิทธิ์ กล่าวว่า จากความเชื่อมั่นของเศรษฐกิจภายในประเทศที่เริ่มกลับมาดีขึ้นตามทิศทางของเศรษฐกิจโดยรวมส่งผลให้การจัดเก็บรายได้ 8 เดือนของปีงบฯ 66 (ต.ค.65 – พ.ค.66) ของสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง สามารถจัดเก็บรายได้ทั้งสิ้น 172,028.777 ล้านบาท โดยจัดเก็บเป็นอากรศุลกากร ค่าธรรมเนียมและรายได้เบ็ดเตล็ดรวม 35,069.377 ล้านบาท และจัดเก็บรายได้แทนหน่วยงานอื่นๆ (ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีสรรพสามิต ภาษีมหาดไทย) รวม 136,959.399 ล้านบาท
นายประสิทธิ์ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง เป็นหน่วยงานจัดเก็บรายได้ราว 40% ของรายได้ที่กรมศุลกากรจัดเก็บได้ และในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้กว่า 458 ราย รวมมูลค่าการจับกุมกว่า 620,207,417.66 บาท อาทิ ใบคัตอบแห้ง 5,600 กก., เมล็ดฝิ่น 26,000 กก., โซเดียมไซยาไนด์ 220,000 กก., กรดซัลฟูริก 131,670 กก., บุหรี่ละเมิดเครื่องหมายการค้า 31,090,000 มวน, เนื้อและชิ้นส่วนสุกร น้ำหนักราว 4,000,000 กก. เป็นต้น
นายประสิทธิ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง มุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่บนพื้นฐานของ “การอำนวยความสะดวกทางการค้าควบคู่กับการควบคุมทางศุลกากร” และในไม่ช้านี้จะบูรณาการร่วมกับกองสืบสวนและปราบปราม นำเรือตรวจการณ์ศุลกากรเข้าประจำการในเขตกำกับดูแลของท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและศักยภาพในการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดกฎหมายศุลกากรและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนปกป้องพื้นที่ชายฝั่งทะเลและรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติต่อไป
“อะเมซิ่ง มูติเวิร์ส เปิดจักรวาลสายบุญ” เสริมสิริมงคลชีวิต กระตุ้นนักท่องเที่ยวสร้างรายได้เข้าชุมชน
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. เปิดเผยถึงข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์พบว่าในปี 2562 การท่องเที่ยวเชิงแสวงบุญสามารถสร้างรายได้หมุนเวียนในระบบสูงสุดถึง 10,800 ล้านบาท ทำให้การท่องเที่ยวเชิงศรัทธามีแนวโน้มในการเติบโตแบบก้าวกระโดดโดยคาดว่าจะสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจทั่วโลกเพิ่มขึ้น 3 เท่าภายใน 10 ปี จากมูลค่ากว่า 13.7 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2565 และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 40.9 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2576
ททท. จึงได้จัดทำโครงการ “เสริมพลังบุญ หนุนพลังใจ” นำเสนอภายใต้แนวคิด “เปิดจักรวาลสายบุญ” มุ่งเน้นนำเสนอการท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ที่มีคุณค่าและความหมายให้แก่นักท่องเที่ยว โดยจะมีการรวบรวมสินค้าท่องเที่ยวกลุ่มศรัทธาความเชื่อและภูมิปัญญาที่สะท้อนถึงอัตลักษณ์และเอกลักษณ์ของประเทศไทย ประกอบด้วย ศาสนสถานวัดสิ่งเคารพและศรัทธา วัฒนธรรมและภูมิปัญญา และการท่องเที่ยวโดยชุมชน ซึ่งกำหนดนำเสนอผ่านการจัดกิจกรรม“อะเมซซิ่ง มูติเวิร์ส : เปิดจักรวาลสายบุญ” ระหว่างวันที่ 30 มิถุนายน – 2 กรกฎาคมนี้ ณ ลานสเเควร์ B หน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์
ภายในงานแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ได้แก่ โซน 12 เส้นทางท่องเที่ยวเสริมพลังบุญหนุนพลังใจ เป็นการจำลองสิ่งศักดิ์สิทธิ์สักการะบูชาและเสริมสิริมงคล โซนตลาดสายมู โซนร้านค้า ร้านอาหารจาก 5 ภูมิภาคเข้าร่วมงาน และโซนกิจกรรมบนเวที เป็นการแสดงดนตรีผ่านศิลปินชื่อดัง
ผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดโครงการ “เสริมพลังบุญ หนุนพลังใจ” เพิ่มเติมได้ที่ www.tourismproduct.tourismthailand.prg หรือ facebook fanpage : Tourism Product
เกษตรกรรม/สิ่งแวดล้อม
ราคาปุ๋ยเคมีปรับลดลงต่อเนื่อง หลังเข้าสู่ฤดูเพาะปลูก พร้อมให้ความมั่นใจเกษตรกรปุ๋ยมีเพียงพอ ไม่จำเป็นต้องกักตุน
ร้อยตรี จักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยสถานการณ์ปุ๋ยเคมีในประเทศ ว่าก่อนเข้าสู่ฤดูเพาะปลูกช่วงเดือนพฤษภาคม พบว่าเกษตรกรมีความต้องการใช้ปุ่ยตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา กรมการค้าภายใน ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดทั้งปริมาณและราคา ให้ความมั่นใจว่า ปีนี้ปุ๋ยเคมีจะไม่ขาดแคลน เพราะในสต๊อกทั่วประเทศมีปุ๋ยจำนวน 1 ล้าน 2 แสนตันใกล้เคียงกับปีที่แล้ว และตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปีที่แล้วจนถึงปัจจุบัน ราคาทยอยปรับลดลงต่อเนื่องร้อยละ 32-51 สอดคล้องกับสถานการณ์ในตลาดโลก ราคาปุ๋ยได้ปรับลดเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ดังนั้นเกษตรกร ไม่จำเป็นต้องกักตุน สามารถสั่งซื้อจากโรงงานได้ พร้อมกันนี้ กรมการค้าภายในและสำนักงานพาณิชย์ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ ตรวจสอบราคาปุ๋ยเป็นประจำทุกสัปดาห์ และได้ประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรสั่งซื้อปุ๋ยจากโรงงานโดยตรง ในลักษณะของสหกรณ์/วิสาหกิจชุมชน เพื่อให้คุ้มค่ากับราคาค่าขนส่ง จะได้ราคาที่ถูกลง
รองอธิบดีกรมการค้าภายใน ยังย้ำให้เกษตรกร เลือกซื้อปุ๋ยเคมีจากแหล่งที่เชื่อถือได้ โดยตรวจดูสูตรของปุ๋ย แหล่งที่มาที่กระสอบ ขณะเดียวกัน ร้านจำหน่ายปุ๋ย ต้องติดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน หากเกษตรกรถูกเอารัดเอาเปรียบ หรือพบการจำหน่ายในราคาแพงเกินจริง โทรแจ้งสายด่วนกรมการค้าภายใน 1569
สังคม
นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดี หลังร่วมทดสอบการเดินรถเสมือนจริง รถไฟฟ้าสายสีเหลือง
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังร่วมทดสอบการเดินรถเสมือนจริง โครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง รวมระยะทางกว่า 30 กิโลเมตร โดยนายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมนิทรรศการโครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลือง ณ ศูนย์ซ่อมบำรุง พร้อมรับฟังสรุปภาพรวมการดำเนินงานที่ผ่านมาโดยการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ผู้รับผิดชอบโครงการ
จากนั้นนายกรัฐมนตรี ร่วมทดสอบการเดินรถเสมือนจริง โดยเดินทางจากศูนย์ซ่อมบำรุง สถานีศรีเอี่ยม ถึงสถานีลาดพร้าว เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. ที่ผ่านมา พร้อมกล่าวแสดงความยินดีกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่สามารถดำเนินโครงการเปิดได้เต็มรูปแบบในวันนี้ (19 มิ.ย.) และขอให้ทุกคนใช้บริการด้วยความปลอดภัย ขณะเดียวกันรัฐบาลชุดนี้ได้มีการวางแผนระบบเชื่อมต่อเส้นทางรถไฟฟ้า ในอนาคตแบบใยแยงมุม รวมถึงการเร่งพิจารณา นำระบบตั๋วร่วม มาชำระค่าบริการให้ครอบคลุมทุกสายทาง สำหรับอัตราค่าโดยสารเริ่มต้น 15-45 บาท ค่ายกเว้นค่าแรกเข้ากรณีเปลี่ยนเส้นทางโดยสาร รวมถึงการให้บริการในเชิงพาณิชย์อย่างเต็มรูปแบบ ในวันที่ 3 กรกฎาคม 2566 ต้องผ่านการพิจารณาจากคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบอีกครั่ง อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ต้องให้รัฐบาลชุดใหม่มาดำเนินการต่อ
สำหรับโครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว – สำโรง เป็นหนึ่งในโครงการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในความรับผิดชอบของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ออกแบบให้เป็นระบบขนส่งมวลชนระบบรอง เพื่อขนส่งผู้โดยสารจากพื้นที่ฝั่งตะวันออกของกรุงเทพมหานคร และพื้นที่บางส่วนในจังหวัดสมุทรปราการ เข้าสู่ระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนสายหลักอื่นๆ วันนี้ได้เปิดให้บริการครบทั้ง 23 สถานี ตั้งแต่สถานีสำโรงถึงสถานีลาดพร้าว โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย พร้อมขยายช่วงเวลาให้บริการตั้งแต่เวลา 06.00 น. – 21.00 น. เพื่อรองรับความต้องการเดินทางของประชาชนในช่วงเร่งด่วน
สำหรับรถไฟฟ้าสายสีเหลือง มีแนวเส้นทางผ่านย่านที่อยู่อาศัยและย่านธุรกิจสำคัญ เริ่มต้นที่แยกรัชดา-ลาดพร้าว วิ่งไปตามถนนลาดพร้าว จนถึงแยกบางกะปิ และเลี้ยวขวาไปตามถนนศรีนครินทร์ ผ่านแยกศรีนุช ศรีอุดม ศรีเอี่ยม จนถึงแยกศรีเทพา เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนเทพารักษ์ ไปสิ้นสุดที่จุดตัดถนนสุขุมวิท ที่สถานีสำโรง
ทีมนักประดิษฐ์ไทย คว้ารางวัลจากการประกวดสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมระดับนานาชาติ
นางสาววิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ หรือ วช. กล่าวว่า ในปีนี้ นับเป็นโอกาสที่น่ายินดีที่นักประดิษฐ์ไทยได้รับเหรียญรางวัลและ Special Prize ในผลงานที่เข้าร่วมการประกวดหลายรางวัล ได้แก่ Special Prizes on stage จากองค์กรนานาชาติ ในผลงานเรื่อง “เทคโนโลยีโดรนเพื่อการเกษตรพื้นที่สูงควบคุมระยะไกลด้วยเครือข่าย 4G” โดยอาจารย์พิศิษย์ มิตรเกื้อกูลและคณะ จากสมาคมกีฬาเครื่องบินจำลองและวิทยุบังคับ โดยได้รับรางวัลจาก World Invention Intellectual Property Associations (WIIPA Special Award) และ“กระบวนการสกัดกระเจี๊ยบเขียวเพื่อป้องกันการสร้างเมลานินใหม่และการพัฒนาตำรับเพื่อสร้างนวัตกรรมด้านความกระจ่างใสให้กับผิวหน้า” โดย ดร.เดวิด มกรพงศ์ และคณะ จาก บริษัท อาร์แอนด์ดี รีเสิร์ช อินโนเวชั่นแอนด์ ซัพพลาย จำกัด โดยได้รับรางวัลจาก Macao Innovation and Invention Association (Leading Innovation Award)
พร้อมนี้ ประดิษฐกรรมและและนวัตกรรมของนักประดิษฐ์นักวิจัยไทย ยังคว้าเหรียญรางวัลจากเวที “The 6th China (Shanghai) International Invention & Innovation Expo 2023” ในประเภทต่างๆ ประกอบด้วย เหรียญทอง จำนวน 10 ผลงาน เหรียญเงิน จำนวน 4 ผลงาน และเหรียญทองแดง จำนวน 1 ผลงาน
เร่งฝึกทักษะอาชีพผู้มีรายได้น้อย หวังสร้างรายได้หมุนเวียนให้ชุมชน
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่ากระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า มอบหมายให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ดำเนินโครงการพัฒนาทักษะแรงงานอิสระยุค 4.0 โดยเน้นกลุ่มเป้าหมายเป็นแรงงานอิสระที่มีสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อมุ่งเน้นการสร้างโอกาสในการประกอบอาชีพหลักหรืออาชีพเสริมในการเพิ่มรายได้ให้สูงขึ้นผ่านการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงาน นอกจากมีการฝึกทักษะอาชีพแล้ว ผู้ผ่านการฝึกอบรมได้รับสิทธิ์รับมอบเครื่องมือและอุปกรณ์ต่อยอดในการประกอบอาชีพ เป็นการันตีว่าเป็นโครงการที่สามารถสร้างงานสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับตนเองและครอบครัว โดยมีเป้าหมายดำเนินการฝึกอบรมจำนวน 31,500 คน ปัจจุบันดำเนินการแล้ว 22,281 คน มีงานทำกว่าร้อยละ 88 และมีรายได้เฉลี่ย 8,384 บาทต่อเดือน ดำเนินการขับเคลื่อนโครงการโดยสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานและสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานทั่วประเทศ
ด้านนางสาวบุปผา เรืองสุด อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กล่าวว่า สถาบันและสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานทั่วประเทศ จะคัดเลือกหลักสูตรที่แรงงานสนใจและสามารถต่อยอดด้านการประกอบอาชีพในพื้นที่ได้ ซึ่งในแต่ละหลักสูตรที่จัดฝึกอบรมได้รับกระแสตอบรับที่ดีมีผู้สมัครเข้าเป็นจำนวนมาก และบางหลักสูตรมีผู้สมัครเกินกว่าที่กำหนดไว้ จึงต้องมีการเพิ่มจำนวนรุ่นในการอบรม
นอกจากนี้ ผู้ที่ผ่านการฝึกอบรม ยังได้รับเครื่องมือและอุปกรณ์เพื่อนำไปประกอบอาชีพด้วย นับเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ดีเป็นการติดอาวุธด้านทักษะอาชีพให้แก่ผู้มีสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ การส่งเสริมให้กลุ่มเหล่านี้มีอาชีพเท่ากับเป็นสร้างรายได้หมุนเวียนให้เกิดขึ้นภายในชุมชน มีอาชีพหลากหลายมากขึ้นเพื่อบริการสังคม ลดทอนปัญหาความยากจนได้อย่างยั่งยืน
ข้อมูลข่าวและที่มา
ผู้สื่อข่าว : ธนพิชฌน์ แก้วกา
ผู้เรียบเรียง : ธนพิชฌน์ แก้วกา
แหล่งที่มา : หน่วยงานสำนักข่าว
{{item.title}}
{{item.date}}
90-91 ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. 10310
โทรศัพท์ 02-248-8600, Fax 02-369-2579
nnt.thainews © 2021 All rights reserved.