
ข่าว
วิดีโอ
หนังสือพิมพ์
ไทยรัฐทีวี
ไลฟ์สไตล์
กีฬา
บันเทิง
ดวง
หวย
นิยาย
โปรโมชั่น
MONEY
MIRROR
THAIRATH +
LIVE
“กิตติศักดิ์ รัตนวราหะ” เมินถูกมอง ส.ว.แทรกแซงบริหารประเทศ ลั่น วันนี้ ส.ว.คว่ำ “พิธา” ชี้ ต่อให้เปลี่ยนมาโหวต “เศรษฐา” ถ้ามี “ก้าวไกล” ก็จะปัดตก ประกาศทวงคืนประเทศไทย คืนลูกหลานสู่อ้อมกอดพ่อแม่ ขอจับตาเสียง ส.ว. โหวตหนุน “พิธา” น้อยลง 5 เสียง
วันที่ 19 ก.ค. 2566 นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ส.ว. ให้สัมภาษณ์ก่อนการโหวตนายกรัฐมนตรีรอบที่ 2 โดยระบุว่า วันนี้ ส.ว.จะขอประเทศไทยคืน จะไม่ยอมเปลี่ยนประเทศไทย เราจะขอลูกหลานคืน นำลูกหลานคืนสู่อ้อมกอดของพ่อแม่ เพื่อรักษาวัฒนธรรมและประเพณีไทยให้คืนกลับมา โดยเกือบทั้งหมดจะลงมติไม่เห็นชอบให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี สำหรับวิธีการ เราจะพยายามไม่เพิ่มความขัดแย้ง ไม่ให้มีการแบ่งแยกประเทศไทย โดยยืนยันจุดยืนว่า จะไม่โหวตให้ นายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี แต่สำหรับวันนี้จะมีการโหวตหรือเปล่า ถ้าหากว่ามี ก็ขอให้สื่อมวลชนร่วมกันสังเกตจากที่ ส.ว.งดออกเสียง จะเปลี่ยนเป็นไม่เห็นชอบ โดยคาดว่า ส.ว.ที่เคยลงมติงดออกเสียงในวันนี้ จะลงมติไม่เห็นชอบไปทั้งหมด สำหรับวันนี้พี่ตัดสินใจเลือกที่จะไม่โหวตนั้น ส่วนตัวไม่รู้สึกหนักใจ เพราะว่ามีความขัดแย้งมาก โดยเราจะยึดถือประโยชน์ของชาติ ศาสนา และ พระมหากษัตริย์ ส่วนเรื่องความขัดแย้งนั้นให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายความมั่นคง
ทั้งนี้ โดยส่วนตัว นายกิตติศักดิ์ ยืนยันว่า หากการจัดตั้งรัฐบาลยังมีพรรคก้าวไกล จะยังคงไม่สนับสนุน ไม่เห็นชอบ และถ้าในวันนี้มีการเสนอชื่อ นายเศรษฐา ทวีสิน และพรรคเพื่อไทย นายกิตติศักดิ์ ยืนยันอีกครั้งหนึ่งว่า ถ้าหากจะมีการจัดตั้งรัฐบาลในรัฐบาลนั้นต้องไม่มีพรรคก้าวไกล ซึ่งถ้าหากยังรวมกันเป็น 8 พรรคเดิม แม้ไม่มีนายพิธาก็จะไม่โหวตให้เด็ดขาด
…
ทั้งนี้ เมื่อมีผู้สื่อข่าวสอบถามว่า ตอนแรก นายกิตติศักดิ์ บอกว่าจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาล แต่มีเงื่อนไขว่าต้องไม่มีพรรคก้าวไกลนั้น ถือว่าเป็นการก้าวก่ายฝ่ายบริหารหรือไม่ นายกิตติศักดิ์ บอกว่า มันเป็นสิทธิ์ของ ส.ว. โดยใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 และยืนยันว่าถ้าหากพรรคก้าวไกลมาเป็นรัฐบาล ประเทศชาติจะไม่เหมือนเดิม จะมีแต่ความขัดแย้ง ถ้าหากเรายังคงปล่อยไปบ้านเมืองจะมีความแตกแยก ยืนยันว่าไม่มีใครมาสั่ง ส.ว.ได้ และ พล.อ.ประยุทธ์ ได้วางมือทางการเมืองแล้วไม่ได้รับใบสั่งจาก พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่อย่างใด
ส่วนข้อเสนอที่ให้ พรรคก้าวไกล ไปอยู่พรรคฝ่ายค้านนั้น ตนยืนยันว่าทาง ส.ว.ไม่ได้มีการชี้นำหรือบอกกล่าวแต่แค่ยืนยันว่าถ้าจะมีการจัดตั้งรัฐบาลต้องไม่มีพรรคก้าวไกลเท่านั้น ซึ่งถ้าหากพรรคการเมืองใดสามารถรวมเสียงได้ 376 เสียง ส.ว. ก็จะอยู่สบายๆ ไม่ต้องมายุ่งเกี่ยว แต่นี่รวบรวมไม่ได้ถึง 376 ก็ต้องให้ ส.ว.มีอำนาจหน้าที่ตาม รัฐธรรมนูญมาตรา 272
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า การไม่โหวตให้ทั้ง พรรคก้าวไกล และ พรรคเพื่อไทย ในการจัดตั้งรัฐบาลนั้น จะทำให้ประเทศติดหล่มหรือไม่ เพราะไม่สามารถเลือกนายกรัฐมนตรีได้ นายกิตติศักดิ์ ยืนยันหนักแน่นว่า “ไม่ติด ขอให้ไปรวบรวมเสียงมาให้ได้”
และยังมีคำถามถึงกรณีที่ ส.ว.จะยกระดับ เป็นเพราะว่าพรรคก้าวไกลมีการยื่นให้มีการแก้ไขมาตรา 272 บอกว่าไม่เกี่ยว เพราะว่าการยื่นแก้ต้องเป็นฝ่ายค้าน ตอนนี้ถามว่ามีฝ่ายค้านแล้วหรือยัง และถ้าหากผ่านจะต้อง ผ่านวาระ 3 และจะต้องใช้ ส.ว.ถึง 84 เสียง และจะไปแก้ ม.272 ได้อย่างไร ทั้งนี้ นายกิตติศักดิ์ ยืนยันว่าตนมาตามบทเฉพาะกาล ซึ่งในเดือนพฤษภาคมปี 2567 ตนก็จะหมดวาระแล้ว ทำไมจะต้องมาเร่งให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ม. 272 ในตอนนี้ ทั้งนี้มีเรื่องเศรษฐกิจปากท้องที่ควรจะทำมากกว่า ผมมองว่านอกจากจะไม่ได้สาระแล้ว เป็นเรื่องของเด็กที่กำลังเกเร
ทั้งนี้ นายกิตติศักดิ์ เปิดเผยในช่วงท้ายว่า ส.ว.ที่เคยโหวตให้นายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น วันนี้เสียงลดลง ไปประมาณ 5 คน และยืนยันว่า ส.ว.ส่วนใหญ่มีความคิดเห็นคล้ายตนเกือบหมดทั้ง 250 คน พร้อมย้ำที่พึ่งท้ายอย่างชัดเจนว่า “ถ้าหากยังมีก้าวไกล ในพรรคร่วมรัฐบาลจะไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้อย่างแน่นอน”
…
…